อาชีวอนามัยและความปลอดภัย

สุขภาพและความปลอดภัย
ความมุ่งมั่น
กลุ่มไทยออยล์มุ่งเน้นการวางรากฐานระบบการจัดการด้านความปลอดภัยส่วนบุคคล (Personal safety) และความปลอดภัยในกระบวนการผลิต (Process Safety) ผ่านนโยบายคุณภาพ ความมั่นคง ความปลอดภัย อาชีวอนามัย สิ่งแวดล้อม การจัดการพลังงาน และความรับผิดชอบต่อสังคม เพื่อป้องกัน ควบคุม และลดผลกระทบที่อาจจะเกิดขึ้นทั้งในสภาวะการดำเนินงานปกติ สภาวะผิดปกติ และสภาวะฉุกเฉิน สำหรับการดำเนินธุรกิจในปัจจุบันและการขยายธุรกิจในอนาคต ตลอดรวมถึงการสนับสนุนและปกป้องคู่ค้าจากความเสี่ยงของการดำเนินธุรกิจอันเนื่องมาจากประเด็นทางกฎหมาย ข้อบังคับและข้อกำหนดที่เกี่ยวข้อง โดยมีเป้าหมายการดำเนินงานเป็น “องค์กรที่ปราศจากอุบัติเหตุ (No Harm No Leak Goal Zero)”
เป้าหมาย
No Harm No Leak Goal Zero
- - ยกระดับวุฒิภาวะด้านความปลอดภัยให้อยู่ในระดับที่ 4 (Maturity Level 4) ภายในปี 2565
- - สถิติความปลอดภัย อัตราการบาดเจ็บจากการทำงาน (TRIR) อยู่ในกลุ่มผู้นำ 10% ของกลุ่มธุรกิจน้ำมันและก๊าซ ภายในปี 2565
- อัตราการบาดเจ็บจากการทำงาน (TRIR) น้อยกว่า 0.20 ภายในปี 2568
แนวทางการบริหารจัดการ
คณะกรรมการความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทำงาน
กลุ่มไทยออยล์มีหน่วยงานเฉพาะทำหน้าที่ควบคุมและผลักดันการดำเนินงานตามแผนงานดังกล่าว และมีการแต่งตั้งคณะกรรมการความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทำงาน ประกอบด้วยผู้แทนจากพนักงานระดับปฏิบัติการไม่น้อยกว่าร้อยละ 50 ของคณะกรรมการทั้งหมด (ไม่รวมประธานกรรมการ) ซึ่งกำหนดให้มีการประชุมอย่างน้อยเดือนละหนึ่งครั้ง เพื่อแจ้งข่าวสาร พร้อมติดตามความก้าวหน้าของการดำเนินงานและแผนการดำเนินงานในอนาคต เป็นต้น
บทบาทของคณะกรรมการความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทำงาน
-
- พิจารณานโยบายและแผนงานด้านความปลอดภัยในการทำงาน
-
- กำหนดเป้าหมายที่เกี่ยวข้องกับความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทำงาน
-
- พัฒนาแผนงาน 5 ปี โดยการจัดลำดับความสำคัญและกำหนดแผนการดำเนินงานให้สอดคล้องกับเป้าหมาย เพื่อระบุบ่งชี้ถึงความเสี่ยง
-
- ติดตาม ประเมิน และรายงานความคืบหน้าของผลการดำเนินงาน เพื่อลดและป้องกันประเด็นความเสี่ยงที่เกี่ยวข้อง ที่อาจนำสู่ผลกระทบต่อเป้าหมาย
-
- รายงานและเสนอแนะมาตรการหรือแนวทางปรับปรุงแก้ไขให้ถูกต้องตามกฎหมายเกี่ยวกับความปลอดภัยในการทำงานและมาตรฐานความปลอดภัยในการทำงานต่อนายจ้าง เพื่อความปลอดภัยในการทำงานของลูกจ้าง ผู้รับเหมา และบุคคลภายนอกที่เข้ามาปฏิบัติงานหรือเข้ามาใช้บริการในสถานประกอบกิจการ
- - ส่งเสริม สนับสนุน กิจกรรมด้านความปลอดภัยในการทำงานของสถานประกอบกิจการ ติดตาม รายงาน และประเมินผล
- - สำรวจการปฏิบัติการด้านความปลอดภัยในการทำงาน และตรวจสอบสถิติการประสบอันตรายที่เกิดขึ้นในสถานประกอบกิจการนั้นอย่างน้อยเดือนละหนึ่งครั้ง
การบริหารจัดการด้านความปลอดภัย และสุขภาพพนักงานและผู้รับเหมา
กลุ่มไทยออยล์บริหารจัดการด้านความปลอดภัย อาชีวอนามัย โดยกำหนดนโยบายคุณภาพ ความมั่นคง ความปลอดภัย อาชีวอนามัย สิ่งแวดล้อม การจัดการพลังงาน และความรับผิดชอบต่อสังคมของกลุ่มไทยออยล์ (QSHE) เป็นกรอบในการดำเนินการภายใต้กลยุทธ์ TOP Group QSHE Excellence 2019 - 2023 เพื่อขับเคลื่อนและเสริมสร้างศักยภาพของกลุ่มไทยออยล์ให้บรรลุความเป็นเลิศ ด้าน QSHE อย่างต่อเนื่องและยั่งยืน
ปัจจุบันกลุ่มไทยออยล์ดำเนินการตามแผนกลยุทธ์เพื่อมุ่งสู่ความเป็นเลิศทางธุรกิจ (House of Business Excellence : O2Bx) เพื่อเตรียมพร้อมขับเคลื่อนเป็นโรงกลั่นชั้นนำระดับโลก ภายในปี 2565 โดยความปลอดภัยถือเป็นหนึ่งในเสาหลักที่จะต้องได้รับการพัฒนาและยกระดับ
นอกจากนั้น กลุ่มไทยออยล์ยังคงให้ความสำคัญกับกลยุทธ์เชิงรุกโดยการยกระดับกิจกรรม Management Walk and Talk เป็น GEMBA Walk โดยผู้บริหารระดับสูง ดำเนินการตรวจสอบด้วยการพูดคุยสอบถามถึงกิจกรรมสำคัญ โดยใช้ชุดคำถามที่มีความเฉพาะ มุ่งเน้นการสร้างความเข้าใจ แนะนำวิธีปฏิบัติที่ปลอดภัยในกิจกรรมที่มีความเสี่ยงทั้งด้านความปลอดภัยส่วนบุคคลและความปลอดภัยในกระบวนการผลิต และดำเนินกิจกรรม QSHE Roll Out อย่างต่อเนื่องโดยมุ่งเน้นการเข้าถึง รวมถึงการรณรงค์ส่งเสริมจิตสำนึกด้านคุณภาพ ความมั่นคง ความปลอดภัย และสิ่งแวดล้อมของผู้ปฏิบัติงานหรือภายในพื้นที่ปฏิบัติงาน เพื่อขยายขอบเขตให้ครอบคลุมพื้นที่ปฏิบัติงานและการมีส่วนร่วมของผู้ปฏิบัติงานภายใต้กิจกรรมและสภาพแวดล้อมในการทำงาน ณ ขณะนั้น อีกทั้ง กลุ่มไทยออยล์ยังนำระบบการจัดการต่างๆ ที่เหมาะสมมาประยุกต์ใช้ เพื่อให้เกิดการพัฒนาอย่างยั่งยืนต่อไป และมีการรายงานผลการดำเนินกิจกรรมต่างๆ ข้างต้นให้ผู้บริหารได้รับทราบและร่วมหาแนวทางการแก้ไขเป็นประจำ รวมถึงจะมีกระบวนการทบทวน (Management Review) เป็นประจำทุกปี เพื่อกำหนดแนวทางการปรับปรุงและจัดทำแผนงานประจำปีต่อไป พร้อมทั้งมีการสื่อสารให้พนักงานรับทราบเป็นระยะ เพื่อนำไปสู่การปฏิบัติที่มีประสิทธิผลต่อไป
กลุ่มไทยออยล์ดำเนินกิจกรรมด้านอาชีวอนามัยและความปลอดภัยที่สำคัญ ดังนี้
- • ด้วยความมุ่งมั่นในการสร้างจิตสำนึกเพื่อให้ตระหนักถึงความสำคัญของความปลอดภัยตั้งแต่ระดับคณะกรรมการบริษัทฯ จึงมีการมอบหมายให้ผู้บริหารระดับสูงนำเสนอกรณีศึกษาและประเด็นที่มีนัยสำคัญด้านความปลอดภัยทั้งจากภายในและภายนอกองค์กรให้ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ รับทราบเป็นประจำทุกเดือน เพื่อส่งเสริมให้เกิดการพัฒนาและปรับปรุงมาตรการด้านความปลอดภัยของบริษัทฯ อย่างต่อเนื่อง
- • การเยี่ยมผู้ปฏิบัติงานในพื้นที่ของประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ และคณะผู้บริหารระดับสูง ทั้งในระหว่างการปฏิบัติงานตามปกติ การหยุดซ่อมบำรุงหน่วยผลิต และงานโครงการก่อสร้าง เพื่อสร้างขวัญและกำลังใจ ตลอดจนสะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นและสนับสนุนความปลอดภัยในการทำงาน รวมถึงเป็นตัวอย่างที่ดีด้านภาวะผู้นำความปลอดภัย
- • การปรับแผนกลยุทธ์เพื่อมุ่งสู่ความเป็นเลิศทางธุรกิจ (O2BX) เพื่อเตรียมพร้อมที่จะขับเคลื่อนโรงกลั่นชั้นนำระดับโลก ภายในปี 2565 และปรับเป้าหมายความปลอดภัยระดับองค์กรใหม่ให้สอดคล้องกับกลยุทธ์ใหม่ดังกล่าว คือ No Harm, No Leak, Goal Zero
- • การทบทวนแผนงาน 5 ปี ด้านอาชีวอนามัย ความปลอดภัย การจัดการเหตุฉุกเฉินและวิกฤต ให้สอดคล้องกับสภาพแวดล้อมทั้งภายในและภายนอก ความเสี่ยงต่างๆ รวมถึงแผนกลยุทธ์และเป้าหมายระดับองค์กรใหม่
- • การทบทวนการบ่งชี้และประเมินความเสี่ยงที่มีศักยภาพจะก่อให้เกิดอุบัติเหตุร้ายแรง พร้อมทั้งกำหนดมาตรการควบคุมและป้องกัน และมีการตรวจติดตามประสิทธิผลของมาตรการควบคุมและป้องกันอย่างต่อเนื่อง การตรวจสอบความปลอดภัย การวิเคราะห์ รวมถึงเสนอแนวทางแก้ไขและป้องกันไม่ให้เกิดซ้ำ ทั้งนี้ ผู้บริหารจะมีการทบทวนผลการดำเนินงานด้านความปลอดภัยเป็นประจำทุกเดือน
- • การทบทวนระบบใบอนุญาตในการทำงาน (Permit to Work System) โดยเฉพาะใบอนุญาตที่เกี่ยวกับ
• การปฏิบัติงานที่เกี่ยวข้องกับความร้อนหรือประกายไฟ (Hot Work) รวมถึงรายการตรวจสอบ (Checklist) ที่เกี่ยวข้อง ให้สอดคล้องกับวิธีปฏิบัติที่เป็นเลิศในระดับสากล (International Best Practice) - • การยกระดับการบริหารจัดการความปลอดภัยผู้รับเหมา (Contractor Safety Management) ให้สอดคล้องกับวิธีปฏิบัติที่เป็นเลิศในระดับสากล (International Best Practice) มีการตรวจประเมินผลการดำเนินงานด้านความปลอดภัยประจำปีของบริษัทผู้รับเหมา นอกจากนี้ได้จัดทำ Electronic Contractor Safety Passport เพื่อบันทึกประวัติและข้อมูลที่สำคัญด้านความปลอดภัยของผู้รับเหมารายบุคคลและรายบริษัท สำหรับใช้เป็นข้อมูลในการจัดจ้างบริษัทผู้รับเหมา และการบริหารจัดการความปลอดภัยผู้รับเหมาต่อไป
- • การพัฒนาระบบการประเมินผลการดำเนินงานด้านความมั่นคง ความปลอดภัย อาชีวอนามัยและสิ่งแวดล้อม ของผู้รับเหมา กำหนดการตรวจประเมินผลโดยผู้เชี่ยวชาญภายนอก (Third party) ทั้งในส่วนของระบบบริหารจัดการและการปฏิบัติงานในพื้นที่ สำหรับใช้ในการแบ่งระดับผู้รับเหมาเป็นสีเขียว สีเหลือง สีแดง เพื่อใช้เป็นเกณฑ์ในการพิจารณาการดำเนินธุรกิจร่วมกันอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ในกรณีที่บริษัทผู้รับเหมามีผลประเมินที่ยังไม่ถึงเกณฑ์ที่กำหนด (สีเหลือง สีแดง) จะเปิดโอกาสให้ผู้รับเหมาดำเนินการปรับปรุงแก้ไขตามกรอบระยะเวลาที่กำหนด
- การจัดตั้งศูนย์ฝึกอบรมความปลอดภัย ที่มีความพร้อมทั้งภาคทฤษฎี (Theory) และภาคปฏิบัติ (Demonstration and Practice) เพื่อพัฒนาความรู้ ความสามารถและทักษะของพนักงาน และผู้รับเหมา
- • การพัฒนาและประเมินความรู้ความสามารถของพนักงานและผู้รับเหมาที่ปฏิบัติหน้าที่เกี่ยวข้องกับความปลอดภัย ตามระบบใบอนุญาตในการทำงาน และการจัดการเหตุฉุกเฉินและภาวะวิกฤตตามบทบาทหน้าที่ ผ่านกระบวนการ Competency Assurance System
- • การยกระดับการบริหารจัดการสารเคมี (Chemical Management) ครอบคลุมการทำงานเกี่ยวกับสารเคมีที่นำมาใช้ในกระบวนการผลิต การทดสอบผลิตภัณฑ์ การซ่อมบำรุงเครื่องจักร รวมถึงการผลิต ผลิตภัณฑ์ หรือผลิตภัณฑ์พลอยได้ในกลุ่มไทยออยล์ให้สอดคล้องกับวิธีปฏิบัติที่เป็นเลิศในระดับสากล (International Best Practice)
- การจัดโครงการ All SAFE White Green MTA ในช่วงปิดซ่อมบำรุงหน่วยผลิตตามวาระในปี 2564
- • การจัดโครงการป้องกันและลดอุบัติเหตุจากการทำงาน (30 60 90 Days with No Harm No Leak) เพื่อเป็นการเน้นย้ำและกระตุ้นให้พนักงานและผู้รับเหมา เกิดความตระหนักด้านความปลอดภัยในการทำงานอย่างเข้มข้น โดยมีเป้าหมาย คือ ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บจากการทำงานถึงขั้นต้องเข้ารับการรักษาพยาบาลทางการแพทย์ (Medical Treatment Case : MTC) ซึ่งบริษัทฯ ประสบผลสำเร็จตามเป้าหมายที่กำหนดไว้
- • การเสริมสร้างการตระหนักถึงอันตราย ได้แก่ วิถีอันตราย (Line Of Fire) และการปฏิบัติตามกฎความปลอดภัยพื้นฐาน 12 ข้อ (12 Life Saving Rules) อย่างเคร่งครัด พร้อมทั้งรณรงค์ให้มีการเขียนรายงาน Potential Incident Report (PIR) โดยมุ่งเน้นถึงการกระทำที่ไม่ปลอดภัย (Unsafe Act) และสภาพการณ์ที่มีศักยภาพจะก่อให้เกิดอุบัติเหตุ (Unsafe Condition) ซึ่งเป็นมาตรการป้องกันก่อนเกิดเหตุ
- • การทบทวนการประเมินความเสี่ยงต่อสุขภาพในช่วงปิดซ่อมบำรุงหน่วยผลิตประจำปี โดยมุ่งเน้นมาตรการเชิงรุกหรือการป้องกันก่อนเกิดโรคจากการทำงาน รวมถึงมีการตรวจสอบและเฝ้าติดตามประสิทธิผลของมาตรการควบคุมและป้องกันดังกล่าวโดยแพทย์และทีมผู้เชี่ยวชาญอาชีวอนามัย นอกจากนั้น ยังมีการตรวจสุขภาพตามปัจจัยเสี่ยงและการตรวจสุขภาพสำหรับผู้ปฏิบัติหน้าที่เฉพาะที่มีความเสี่ยงสูง
- การวิเคราะห์และเสนอแนวทางแก้ไขและป้องกันไม่ให้เกิดซ้ำอย่างเป็นระบบ
- • การประเมินดัชนีชี้วัดสมรรถนะด้านสุขภาพ (Health Performance Indicators) ตามหลักเกณฑ์และแนวทางของ International Association of Oil and Gas Producers (IOGP) ซึ่งเป็นมาตรฐานสากล โดยได้รับคะแนนการประเมินในปี 2563 ที่ 3.56 คะแนน จากคะแนนเต็ม 4.00 คะแนน พร้อมจัดทำแผนงานปรับปรุงและปิดช่องว่างระบบการบริหารจัดการให้สอดคล้องตามหลักเกณฑ์และข้อกำหนดของ IOGP ต่อไป
- • การทบทวนบัญชีอุบัติเหตุมีศักยภาพก่อให้เกิดผลกระทบอย่างรุนแรง (Major Accident Event) ให้สอดคล้องกับความเสี่ยง และการทบทวนแผนฉุกเฉินและภาวะวิกฤต รวมถึงแผนเผชิญเหตุล่วงหน้า ให้สอดคล้องกับวิธีปฏิบัติที่เป็นเลิศในระดับสากล (International Best Practice) ตลอดจนปรับปรุงศูนย์ควบคุมเหตุฉุกเฉิน (Emergency Control Center) ให้ทันสมัยและพร้อมใช้งานอย่างมีประสิทธิภาพ
- • การดำเนินการตามแผนการเฝ้าระวังติดตามและแผนเผชิญเหตุรองรับการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด 19 อย่างต่อเนื่อง โดยแบ่งเป็น 3 ระยะ ดังนี้ ระยะที่ 0 (ไม่พบผู้ติดเชื้อ) เน้นการป้องกันและเฝ้าระวัง ระยะที่ 1 พบผู้ต้องสงสัยหรือผู้ติดเชื้อในไทยออยล์ แต่ไม่ส่งผลกระทบต่อการดำเนินธุรกิจ เน้นการควบคุมและป้องกันการแพร่กระจาย และระยะที่ 3 พบผู้ติดเชื้อจำนวนมากในไทยออยล์ และส่งผลกระทบต่อการดำเนินธุรกิจ เน้นการกอบกู้สถานการณ์และการฟื้นฟู ต้องเปิดศูนย์ควบคุมเหตุฉุกเฉินและความต่อเนื่องทางธุรกิจ
- • การปรับปรุงระบบน้ำดับเพลิงและบ่อน้ำดับเพลิงให้สามารถตอบโต้เหตุฉุกเฉินหรือดับเพลิง ครอบคลุมทุกสถานการณ์ฉุกเฉินที่อาจเกิดขึ้น ทั้งในพื้นที่กระบวนการผลิตและถังเก็บผลิตภัณฑ์ รวมถึงจัดหาปืนฉีดน้ำประสิทธิภาพสูง เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการดับเพลิงของกลุ่มไทยออยล์
- • การประเมินความเสี่ยงร้ายแรงและทบทวนมาตรการควบคุมและป้องกันด้านความปลอดภัย โดยกำหนดแผนและมาตรการความมั่นคงและความปลอดภัยเชิงป้องกันในระดับต่างๆ (Defense in Depth) ให้ครอบคลุมความเสี่ยงร้ายแรง โดยเฉพาะการรั่วไหลของสารเคมี ขณะที่มีการขนถ่ายทางเรือ โดยมีการฝึกซ้อมแผนฉุกเฉินในระดับต่างๆ และต่อยอดการฝึกซ้อมแผนฉุกเฉินไปสู่ระดับการบริหารจัดการภาวะวิกฤต (Crisis Management) ร่วมกับหน่วยงานภายนอกและหน่วยงานราชการในพื้นที่ เพื่อป้องกันและลดผลกระทบต่อการดำเนินธุรกิจ รวมถึงเพื่อให้มั่นใจว่ากลุ่มไทยออยล์ยังคงบริหารจัดการและควบคุมความเสี่ยงร้ายแรงให้อยู่ในระดับที่ยอมรับได้ตลอดเวลา
กลุ่มไทยออยล์มีคณะกรรมการ ความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทํางานซึ่งทําหน้าที่จัดการดูแลให้พนักงานทุก คนมีความปลอดภัยในการทํางาน พร้อมกําหนดกฎระเบียบ ข้อกําหนด และวิธีการทํางานที่ปลอดภัยพร้อมทั้งจัดหาอุปกรณ์ป้องกัน อันตรายต่างๆ ตลอดจนให้การศึกษาอบรมแก่พนักงานให้มีความรู้ความเข้าใจในงานที่ทําโดยมีการตรวจสอบ ติดตาม และทบทวนผล การดําเนินงานอย่างต่อเนื่อง
กลุ่มไทยออยล์กําหนดนโยบายความปลอดภัยฯ ระเบียบวิธีปฏิบัติและวิธีปฏิบัติต่างๆ ที่เกี่ยวข้องรวมถึงระเบียบด้านการบุคคล (Blue Book) หมวดที่ 11 ซึ่งเป็นคู่มือที่ลงนามร่วมกันระหว่างองค์กรและกรมแรงงาน ซึ่งถือเป็นหน้าที่ของพนักงานทุกคนที่จะปฏิบัติ ตามวิธี การและแนวทางต่างๆ ที่กําหนดไว้ ตั้งแต่เริ่มทํางาน และรายงานต่อผู้บังคับบัญชาสําหรับเหตุการณ์ท่ีมีศักยภาพก่อให้เกิดอุบัติเหตุ หรืออันตรายหรือความเสียหาย |
|
เนื่องจากความปลอดภัยในกระบวนการผลิตเป็นสิ่งสำคัญยิ่งต่อการดำเนินงาน ดังนั้น ทุกสายงานการผลิตของกลุ่มไทยออยล์จึง ดำเนินงานภายใต้ระบบการบริหารจัดการที่มีประสิทธิภาพและเป็นมาตรฐานทัดเทียมในระดับสากลซึ่งครอบคลุมด้านความปลอดภัย อาชีวอนามัยและสิ่งแวดล้อม โดยมีการกำหนดเป้าหมาย Loss of Primary Containment (LOPC) Tier 1 ให้เป็นศูนย์ และแต่งตั้งคณะกรรมการ ความปลอดภัย ที่ประกอบด้วยตัวแทนจากพนักงานระดับปฏิบัติการไม่ต่ำกว่าร้อยละ 50 ของคณะกรรมการทั้งหมด ทำหน้าที่บริหาร จัดการด้านความปลอดภัยขององค์กร ติดตามและตรวจสอบการดำเนินงานให้สอดคล้องตามมาตรฐานของไทยออยล์ พร้อมทั้ง ให้ความรู้และความเข้าใจด้านความปลอดภัยในกระบวนการผลิตแก่พนักงานทุกฝ่าย เพื่อช่วยยกระดับการดำเนินงานให้มีความ ปลอดภัยทั่วทั้งองค์กรและสอดคล้องตามเป้าหมายที่กำหนด |
การขนส่งของกลุ่มไทยออยล์ดำเนินงานภายใต้ระบบการบริหารจัดการขนส่งที่สอดคล้อง กับกลุ่ม ปตท. ซึ่งประกอบด้วย การจัดการด้านความปลอดภัย การบริหารจัดการพนักงาน ขับรถ รายการตรวจสอบความปลอดภัยก่อนเข้ารับผลิตภัณฑ์ และระบบการตรวจ สอบเพื่อให้การขนส่งตรงตามเวลาและข้อกำหนด โดยมุ่งลดการปฏิบัติที่เสี่ยงต่อ ความปลอดภัย |