Public Policy – Thaioil Group

นโยบายสาธารณะ

นโยบายสาธารณะและการสนับสนุน

กลุ่มไทยออยล์ยึดมั่นในความเป็นกลางทางการเมืองตามที่ระบุไว้ในคู่มือหลักการกำกับดูแลกิจการที่ดีและจรรยาบรรณในการดำเนินธุรกิจ (คู่มือ CG) บริษัทฯ ไม่สนับสนุนในการเข้าไปมีส่วนร่วม และฝักใฝ่พรรคการเมืองใดพรรคการเมืองหนึ่ง หรือผู้มีอำนาจทางการเมืองคนใดคนหนึ่งในระดับท้องถิ่น ระดับภูมิภาค หรือระดับชาติ ทั้งนี้ บริษัทฯ จะให้การสนับสนุนและการใช้จ่ายให้กับองค์กรและสมาคมภายนอกที่ส่งเสริมความเป็นเลิศในการดำเนินธุรกิจและปฏิบัติตามหลักความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อมในอุตสาหกรรมน้ำมัน

รายละเอียดการสนับสนุนองค์กรและสมาคมภายนอกทั้งหมดในช่วงสี่ปีที่ผ่านมาแสดงในตารางด้านล่างนี้ โดยในปี 2566 กลุ่มไทยออยล์มีการสนับสนุนรวมทั้งสิ้นเป็นจำนวน 13.78 ล้านบาท ให้แก่สมาคมทางการค้าและกลุ่มที่ได้รับการยกเว้นภาษี โดยขอบเขตของการรายงานข้อมูลครอบคลุมบริษัทในกลุ่มที่มีรายได้ร้อยละ 96 ของกลุ่มไทยออยล์

จุดยืนด้านนโยบายสภาพภูมิอากาศของกลุ่มไทยออยล์

ภายใต้กลยุทธ์การปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero GHG Emissions Strategy) กลุ่มไทยออยล์มุ่งมั่นที่จะลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก (Greenhouse Gas: GHG) ภายในองค์กรอย่างต่อเนื่อง รวมถึงแสวงหาโอกาสในการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกตลอดห่วงโซ่คุณค่า ซึ่งสอดคล้องกับเป้าหมายของกลุ่ม ปตท. การมีส่วนร่วมที่ประเทศกำหนดของประเทศไทย (Thailand’s Nationally Determined Contributions: NDCs) ตลอดจนเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนของสหประชาชาติ (United Nations’ Sustainable Development Goals) และวัตถุประสงค์ของความตกลงปารีส (Paris Agreement)

สามารถศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับจุดยืนด้านนโยบายสภาพภูมิอากาศ

กระบวนการมีส่วนร่วมในนโยบายสาธารณะ

ไทยออยล์มุ่งมั่นสร้างเครือข่ายร่วมกับภาครัฐและภาคเอกชน ผ่านการเข้าร่วมกิจกรรมสาธารณะ และการเป็นส่วนหนึ่งของสมาชิกในสมาคมทางการค้า เพื่อสนับสนุนการพัฒนานโยบายและกฎระเบียบสาธารณะที่เกี่ยวข้องกับประเด็นด้านสภาพภูมิอากาศ ซึ่งช่วยผลักดันการบรรลุเป้าหมายการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero GHG Emissions) ทั้งนี้ เพื่อยกระดับระบบการจัดการและกระบวนการดำเนินงานของบริษัทฯ ไทยออยล์จึงได้พัฒนาแนวทางการบริหารจัดการสำหรับการสื่อสารสาธารณะที่เกี่ยวข้องกับจุดยืนด้านนโยบายสภาพภูมิอากาศ โดยครอบคลุมกิจกรรมการมีส่วนร่วมในนโยบายสาธารณะ ตลอดจนสมาชิกในสมาคมทางการค้า โดยมีรายละเอียดดังนี้

นโยบายและความมุ่งมั่น
(Policy & Commitment)

ไทยออยล์ได้แถลงการณ์จุดยืนอย่างเป็นทางการเกี่ยวกับการดำเนินงานด้านสภาพภูมิอากาศที่สอดคล้องกับเป้าหมายในการจำกัดอุณหภูมิโลกให้เพิ่มขึ้นไม่เกิน 1.5 องศาเซลเซียส เหนือระดับก่อนยุคอุตสาหกรรม ซึ่งสอดคล้องกับเป้าหมายของกลุ่ม ปตท. การมีส่วนร่วมที่ประเทศกำหนด (NDCs) เป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนของสหประชาชาติ (SDGs) และความตกลงปารีส (Paris Agreement)

กรอบการกำกับดูแล
(Governance Framework)

ไทยออยล์ได้มอบหมายความรับผิดชอบแก่ผู้บริหารระดับสูงในการดำเนินงานที่เกี่ยวข้องกับกิจกรรมสาธารณะและสมาชิกในสมาคมทางการค้า เพื่อสนับสนุนการพัฒนานโยบายและกฎระเบียบสาธารณะเกี่ยวกับประเด็นด้านสภาพภูมิอากาศ ทั้งนี้ สามารถศึกษารายละเอียดเกี่ยวกับบทบาทและความรับผิดชอบได้ในหัวข้อ กรอบการกำกับดูแล

การดำเนินการ (Actions)

การทบทวนและติดตามผล

ไทยออยล์ได้กำหนดเกณฑ์การติดตามและประเมินผล รวมถึงได้ดำเนินการติดตามและทบทวนสถานะของสมาคมทางการค้าเป็นประจำทุกปี เพื่อให้มั่นใจว่าสมาคมทางการค้าที่เกี่ยวข้อง มีแนวทางการบริหารจัดการที่สอดคล้องกับจุดยืนด้านนโยบายสภาพภูมิอากาศของกลุ่มไทยออยล์และความตกลงปารีส (Paris Agreement)

การดำเนินงานที่ไม่สอดคล้องกับจุดยืนด้านสภาพภูมิอากาศและกลยุทธ์การปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์

ไทยออยล์ได้กำหนดกรอบการดำเนินงานที่ชัดเจนเพื่อจัดการกับความไม่สอดคล้องกับจุดยืนด้านสภาพภูมิอากาศและกลยุทธ์การปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ รวมถึงการสื่อสารความคืบหน้าระหว่างจุดยืนด้านนโยบายสภาพภูมิอากาศของบริษัทฯ ที่สอดคล้องกับเป้าหมายด้านสภาพภูมิอากาศระดับสากล กิจกรรมสาธารณะและสมาชิกในสมาคมทางการค้า

การเปิดเผยข้อมูล (Disclosure)

ไทยออยล์ได้เผยแพร่การทบทวนรายงานประจำปีอย่างละเอียด ซึ่งครอบคลุมถึง:

แถลงการณ์ของบริษัทฯ ที่แสดงจุดยืนเกี่ยวกับการดำเนินงานด้านสภาพภูมิอากาศที่สอดคล้องกับเป้าหมายด้านสภาพภูมิอากาศในระดับสากล
สถานะความสอดคล้องของการประเมินจุดยืนด้านนโยบายสภาพภูมิอากาศของสมาคมทางการค้า
การดำเนินการที่เกี่ยวข้องกับสถานะความสอดคล้องที่ประเมินได้

กรอบการกำกับดูแล

ไทยออยล์ได้พัฒนากรอบการกำกับดูแลเพื่อดูแลและติดตามกิจกรรมการมีส่วนร่วมในนโยบายสาธารณะและสมาชิกในสมาคมทางการค้า โดยมีรายละเอียดของบทบาทและความรับผิดชอบของตำแหน่งที่สำคัญและทีมงานที่เกี่ยวข้องกับกิจกรรมสาธารณะและสมาชิกในสมาคมทางการค้า ดังต่อไปนี้

บทบาทและความรับผิดชอบ

ระดับ	บทบาทและความรับผิดชอบ
คณะกรรมการระดับผู้บริหาร – คณะกรรมการเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน	อนุมัติจุดยืนและความมุ่งมั่นเกี่ยวกับสภาพภูมิอากาศของไทยออยล์ ทำหน้าที่เป็นตัวแทนของบริษัทฯ ในการมีส่วนร่วม สนับสนุน และ/หรือส่งเสริมจุดยืนของไทยออยล์ในประเด็นด้านสภาพภูมิอากาศ ติดตามการปฏิบัติตามจุดยืนและความมุ่งมั่นเกี่ยวกับสภาพภูมิอากาศของบริษัทฯ ตลอดจนกำกับดูแลและให้ข้อเสนอแนะเกี่ยวกับกระบวนการมีส่วนร่วมในนโยบายสาธารณะ ตัดสินใจในการดำเนินการเกี่ยวกับกรณีที่ไม่สอดคล้องกับจุดยืนด้านสภาพภูมิอากาศและกลยุทธ์การปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ ส่งเสริมการดำเนินงานตามกลยุทธ์การเปลี่ยนแปลงด้านสภาพภูมิอากาศ
ระดับจัดการ – หน่วยงานด้านความยั่งยืน	ดำเนินการประเมินและสรุปผลความสอดคล้องกับจุดยืนด้านสภาพภูมิอากาศและกลยุทธ์การปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์สำหรับการมีส่วนร่วมใหม่และการต่ออายุสมาชิกภาพ ติดตามและตรวจสอบความคืบหน้าของสถานะความสอดคล้องกับจุดยืนด้านสภาพภูมิอากาศและกลยุทธ์การปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ขององค์กรสมาชิกเป็นประจำ รายงานสถานะของสมาคมทางการค้าแก่คณะกรรมเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืนเกี่ยวกับจุดยืนปัจจุบันในประเด็นด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและความไม่สอดคล้องกับจุดยืนด้านสภาพภูมิอากาศและกลยุทธ์การปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ ทบทวนจุดยืนด้านนโยบายสภาพภูมิอากาศและอิทธิพลของสมาคมทางการค้า
ระดับปฏิบัติการ – ผู้รับผิดชอบจากแผนกต่าง ๆ ของไทยออยล์	มีส่วนร่วม ทบทวน และประเมินจุดยืนของสมาคมทางการค้าในประเด็นที่เกี่ยวข้องกับสภาพภูมิอากาศอย่างสม่ำเสมอ เมื่อเริ่มต้นการมีส่วนร่วมใหม่และต่ออายุสมาชิกภาพ สื่อสารความคาดหวังของไทยออยล์เกี่ยวกับจุดยืนด้านนโยบายสภาพภูมิอากาศกับสมาคมทางการค้าที่ไม่สอดคล้องกัน และร่วมมือกันเพื่อยกระดับจุดยืนขององค์กรในประเด็นที่เกี่ยวข้องกับสภาพภูมิอากาศ รายงานผลการประเมินเบื้องต้นต่อหน่วยงานด้านความยั่งยืนของกลุ่มไทยออยล์

กระบวนการทบทวนและติดตามผล

ไทยออยล์มีความมุ่งมั่นในการยกระดับความเป็นเลิศในการดำเนินงาน และส่งเสริมแนวปฏิบัติที่มีความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อมในอุตสาหกรรมน้ำมัน ควบคู่กับการดำเนินงานที่สอดคล้องกับจุดยืนด้านสภาพภูมิอากาศและกลยุทธ์การปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ ดังนั้น ไทยออยล์จึงให้ความสำคัญกับการติดตามสถานะความสอดคล้องของการดำเนินงานตามจุดยืนด้านสภาพภูมิอากาศและกลยุทธ์การปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ของเครือข่ายและสมาชิกในสมาคมทางการค้าให้สอดคล้องกับวัตถุประสงค์และเป้าหมายด้านสภาพภูมิอากาศของบริษัทฯ

เกณฑ์การประเมินนี้พัฒนาให้สอดคล้องกับคู่มือการมีส่วนร่วมขององค์กรที่รับผิดชอบในนโยบายด้านสภาพภูมิอากาศ (Guide for Responsible Corporate Engagement in Climate Policy) โดย UN Global Compact เพื่อใช้ในการรวบรวมข้อมูลจากเครือข่ายและสมาชิกในสมาคมทางการค้าเกี่ยวกับจุดยืนด้านสภาพภูมิอากาศ วัตถุประสงค์ของสมาคม และกิจกรรมที่สนับสนุนประเด็นด้านสภาพภูมิอากาศ

กรอบการดำเนินงานเพื่อจัดการกับความไม่สอดคล้อง

ไทยออยล์ได้กำหนดแนวทางการดำเนินการในการพิจารณาระดับสถานะความสอดคล้องกับจุดยืนด้านสภาพภูมิอากาศและกลยุทธ์การปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ ในกรณีที่พบสถานะความไม่สอดคล้องในระหว่างกระบวนการประเมิน จะมีการติดต่อสมาคมทางการค้าหรือเครือข่ายที่เกี่ยวข้องเพื่อหารือและทำความเข้าใจในรายละเอียดเพิ่มเติม ซึ่งอาจมีการร้องขอข้อมูลเพิ่มเติมและการสื่อสารเพื่อร่วมกันหาแนวทางแก้ไข พร้อมทั้งกำหนดกระบวนการติดตามผลอย่างใกล้ชิดก่อนดำเนินการในขั้นตอนถัดไป

ทั้งนี้ หากไม่สามารถแก้ไขปัญหาความไม่สอดคล้องได้ จะมีการพิจารณายุติการเป็นสมาชิกหรือหยุดการสนับสนุนในทุกรูปแบบ โดยหน่วยงานความยั่งยืนจะรวบรวมและรายงานผลการประเมินต่อผู้บริหารระดับสูง ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ เพื่อพิจารณาและดำเนินการต่อไป

ระดับของสถานะความสอดคล้องกับจุดยืนด้านสภาพภูมิอากาศและกลยุทธ์การปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์

รหัสสี	ระดับความสอดคล้อง	การดำเนินงาน
	สอดคล้อง(Aligned)	สนับสนุนและติดตามกิจกรรมและจุดยืนในการสนับสนุนนโยบายด้านสภาพภูมิอากาศ
	สอดคล้องบางส่วน (Partially aligned)	สื่อสารความคาดหวังเกี่ยวกับจุดยืนด้านนโยบายสภาพภูมิอากาศ เพื่อแสวงหาความร่วมมือและสนับสนุนสมาคมทางการค้าในการจัดการปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ เพื่อบรรลุเป้าหมายความยั่งยืนขององค์กร สนับสนุนสมาคมทางการค้าอย่างต่อเนื่องในเชิงบวก พร้อมกับติดตามความคืบหน้าอย่างใกล้ชิด
	ไม่สอดคล้อง (Misaligned)	มีส่วนร่วมกับสมาคมทางการค้า เพื่อแบ่งปัน หารือและแสวงหาโอกาสในการปรับตัวหรือเปลี่ยนแปลงให้สอดคล้องกัน ประเมินความต่อเนื่องของการสนับสนุนและการเป็นสมาชิกใหม่ และอาจพิจารณายุติการมีส่วนร่วมหรือถอนตัวจากสมาคมทางการค้าที่ไม่สอดคล้องกับวัตถุประสงค์ของบริษัทฯ

ปี 2567

ผลการดำเนินงาน

ในปี 2566 การสนับสนุนของกลุ่มไทยออยล์ส่วนใหญ่มุ่งเน้นหัวข้อ ดังนี้

1. รายละเอียดเงินสนับสนุน

รายละเอียดการสนับสนุนองค์กรและสมาคมภายนอกทั้งหมดในช่วงสี่ปีที่ผ่านมาแสดงในตารางด้านล่างนี้ โดยในปี 2567 กลุ่มไทยออยล์มีการสนับสนุนรวมทั้งสิ้นเป็นจำนวน 13.86 ล้านบาท ให้แก่สมาคมทางการค้าและกลุ่มที่ได้รับการยกเว้นภาษี โดยขอบเขตของการรายงานข้อมูลครอบคลุมบริษัทในกลุ่มที่มีรายได้ร้อยละ 96 ของกลุ่มไทยออยล์

ประเภทองค์กร	ประเด็นที่สนับสนุน	ชื่อหน่วยงานหรือองค์กร	หน่วย	2564	2565	2566	2567
สมาคมทางการค้า	สนับสนุนการบริหารจัดการกรณีมีเหตุน้ำมันรั่วไหล เพื่อแสดงความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อมและสังคม	กองทุนระหว่างประเทศเพื่อ การชดเชยความเสียหายจากมลพิษน้ำมัน	บาท	0⁽²⁾	6,691,436⁽⁴⁾	8,022,619	7,700,000
		Oil Spill Response Limited (OSRL)	บาท	1,740,193	2,012,460	2,512,806	2,512,806
		สมาคมอนุรักษ์สภาพแวดล้อม ของกลุ่มอุตสาหกรรมน้ำมัน (IESG)	บาท	1,683,000	1,693,000	1,834,000	1,887,000
	สนับสนุนในการยกระดับขีดความสามารถในการแข่งขันกับกลุ่มอุตสาหกรรม เพื่อการดำเนินงานที่เป็นเลิศ	สถาบันปิโตรเลียมแห่งประเทศไทย (PTIT)	บาท	819,309	886,553	1,075,058	1,154,190
		สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย^(5),(6)	บาท	193,670	203,300	203,300	203,300
		สภาผู้ขนส่งสินค้าทางเรือ (TNSC)	บาท	53,500	53,500	53,500	53,500
		สมาคมผู้ผลิตไฟฟ้าเอกชน	บาท	42,800	42,800	42,800	42,800
		หอการค้าไทย	บาท	24,610	24,610	24,610	24,610
		สมาคมสโมสรนักลงทุน	บาท	0	0	6,420	0
		สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย	บาท	0⁽²⁾	25,680	0⁽²⁾	0⁽²⁾
	สนับสนุนในการขับเคลื่อนประเด็นด้านความยั่งยืนให้สอดคล้องกับสากล	องค์กรธุรกิจเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน (TBCSD)	บาท	250,000	250,000	250,000	250,000
		สถาบันน้ำและสิ่งแวดล้อมเพื่อความยั่งยืน	บาท	0	0	0	0
		เครือข่ายคาร์บอนนิวทรัลประเทศไทย (TCNN)⁽⁷⁾	บาท	0	0	0	0
กลุ่มที่ได้รับการยกเว้นภาษี		สมาคมเครือข่ายโกลบอลคอมแพ็กแห่งประเทศไทย	บาท	35,000	35,000	35,000	35,000
การล๊อบบี้ การเป็นตัวแทนผลประโยชน์ หรือการกระทำอื่นๆ ที่คล้ายคลึงกัน	–	–	บาท	0	0	0	0
การรณรงค์หาเสียงทางการเมืองและผู้สมัครระดับท้องถิ่น ระดับภูมิภาคและระดับประเทศ	–	–	บาท	0	0	0	0
อื่นๆ (เช่น ค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับมาตรการการลงคะแนนเสียงหรือประชามติ	–	–	บาท	0	0	0	0
รวม			บาท	4,842,082	11,918,339	13,802,459	13,863,206

หมายเหตุ:
(1) ข้อมูลเงินสนับสนุนรวบรวมมาจากบริษัทในกลุ่มไทยออยล์ ครอบคลุมร้อยละ 96 ของรายได้ทั้งหมด
(2) ได้รับการละเว้นค่าธรรมเนียมสมาชิก
(3) กำหนดชำระค่าธรรมเนียมต่ออายุสมาชิกทุก ๆ 5 ปี
(4) สนับสนุนเงินช่วยเหลือเพิ่มเติม เนื่องจากมีเหตุน้ำมันรั่วไหลในต่างประเทศ
(5) ค่าธรรมเนียมสมาชิกพิจารณาจากรายได้รวมของกิจการที่ปรากฎในงบกำไรขาดทุนย้อนหลัง 2 ปี
(6) ค่าธรรมเนียมสมาชิกสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทยตั้งแต่ปี 2564 ไม่มีค่าธรรมเนียมสมาชิกของบริษัท ไทยออยล์เพาเวอร์ จำกัด เนื่องด้วยยุติกิจการ โดยมีการเข้าร่วมเป็นสมาชิกสมทบของบริษัทในกลุ่ม
(7) เครืือข่่ายเพื่่อสนัับสนุุนการดำเนิินงานเพื่่อบรรลุุเป้้าหมายการลดก๊๊าซเรืือนกระจกของประเทศไทย โดยไม่่มีีค่าธรรมเนีียมสมาชิิก

ปี 2567

การสนับสนุนองค์กรและสมาคมภายนอกที่ไทยออยล์ให้ความสำคัญ

ในปี 2567 การสนับสนุนของกลุ่มไทยออยล์ส่วนใหญ่มุ่งเน้นหัวข้อ ดังนี้

หัวข้อ	สถานะ	คำอธิบายสถานะ/ การมีส่วนร่วม	การใช้จ่ายในปี 2567 (บาท)
การบริหารจัดการการรั่วไหลของน้ำมันอย่างมีความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อมและสังคม	ผู้สนับสนุน	ไทยออยล์เป็นสมาชิกของคณะกรรมการและคณะกรรมการหลักของสมาคมอนุรักษ์สภาพแวดล้อมของกลุ่มอุตสาหกรรมน้ำมัน (Oil Industry Environmental Safety Group Association – IESG) และเป็นสมาชิกขององค์กร Oil Spill Response Limited (OSRL) และสนับสนุนกองทุนระหว่างประเทศเพื่อการชดเชยความเสียหายจากมลพิษน้ำมัน โดยการเป็นสมาชิกในสมาคมเหล่านี้ ส่งผลให้บริษัทฯ สามารถแลกเปลี่ยนองค์ความรู้และการปฏิบัติที่ดีในการตอบสนองวิกฤติร่วมกับผู้เชี่ยวชาญและบริษัทอื่นๆ ในอุตสาหกรรมเดียวกัน	12,099,806
การสนับสนุนข้อมูลและการดำเนินธุรกิจในบริบทอุตสาหกรรมพลังงานเพื่อสร้างโอกาสและรักษาความสามารถในการแข่งขัน	ผู้สนับสนุน	ไทยออยล์เป็นสมาชิกของสถาบันปิโตรเลียมแห่งประเทศไทย (Petroleum Institute of Thailand – PTIT) และสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (Federation of Thai Industries – FTI) โดยสมาคมเหล่านี้ให้การสนับสนุนการดำเนินธุรกิจในบริบทของอุตสาหกรรม	1,478,400
การเคลื่อนไหวทางด้านความยั่งยืนอื่น ๆ	ผู้สนับสนุน	องค์กรที่สนับสนุนไทยออยล์ในการดำเนินธุรกิจอย่างมีความรับผิดชอบ เช่น องค์กรธุรกิจเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน (Thailand Business Council on Sustainable Development – TBCSD) และการสร้างสรรค์การสนทนากับผู้แทนจากสังคมผ่านทาง Global Compact Network Thailand (GCNT)	285,000

องค์กรและสมาคมภายนอกที่กลุ่มไทยออยล์ให้การสนับสนุนสามอันดับแรก

ในปี 2567 องค์กรที่ได้รับการสนับสนุนเงินทุนมากที่สุดสามอันดับแรกจากไทยออยล์ ประกอบด้วยองค์กรที่สนับสนุนประเด็นที่บริษัทฯ ให้ความสำคัญ ตามรายละเอียดด้านล่างนี้

1. กองทุนระหว่างประเทศเพื่อชดใช้ความเสียหายอันเนื่องมาจากมลพิษน้ำมัน

กองทุนระหว่างประเทศเพื่อชดใช้ความเสียหายอันเนื่องมาจากมลพิษน้ำมัน (The International Oil Pollution Compensation Funds: IOPC Funds): เป็นกองทุนที่สนับสนุนค่าชดเชยสำหรับความเสียหายจากมลพิษน้ำมันชนิดสลายตัวยาก (Persistent Oil) ที่รั่วไหลจากเรือบรรทุกน้ำมัน กองทุนนี้สามารถสนับสนุนทางการเงินให้กับไทยออยล์ในกรณีที่เกิดความเสียหายจากการรั่วไหลของน้ำมัน

2. Oil Spill Response Limited (OSRL)

Oil Spill Response Limited (OSRL): เป็นองค์กรร่วมมือกันภาคอุตสาหกรรมที่มุ่งเน้นการช่วยเหลือในการตอบสนองต่อกรณีการรั่วไหลของน้ำมันในระดับสากล โดยมีการสนับสนุนจากทีมงานผู้เชี่ยวชาญระดับโลกที่มีคุณภาพและมีประสบการณ์สูง ซึ่ง OSRL สามารถสนับสนุนไทยออยล์ในกรณีที่เกิดการรั่วไหลน้ำมันในทะเล

3. สมาคมอนุรักษ์สภาพแวดล้อมของกลุ่มอุตสาหกรรมน้ำมัน

สมาคมอนุรักษ์สภาพแวดล้อมของกลุ่มอุตสาหกรรมน้ำมัน (Oil Industry Environmental Safety Group Association: IESG): เป็นองค์กรไม่แสวงหาผลกำไรที่จัดตั้งขึ้นโดยอุตสาหกรรมน้ำมันเพื่อส่งเสริมความเป็นเลิศด้านความปลอดภัยและการดูแลสิ่งแวดล้อมในประเทศไทย โดยไทยออยล์ได้เข้าร่วมกิจกรรมทั้งหมดของ IESG เช่น ความปลอดภัยของการขนส่งทางบกและทางทะเล ตอบสนองต่อกรณีการรั่วไหลของน้ำมันในทะเล โดยไทยออยล์ได้แบ่งปันแนวปฏิบัติด้านความปลอดภัยกับบริษัทอื่นๆ และผู้เชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมน้ำมันอย่างสม่ำเสมอ รวมทั้งเข้าร่วมการฝึกซ้อมการตอบสนองกรณีการรั่วไหลของน้ำมันในทะเลประจำปี

การรายงานจุดยืนด้านนโยบายสภาพภูมิอากาศและกิจกรรมที่เกี่ยวข้องของ
สมาคมทางการค้า

ในปี 2567 ไทยออยล์ได้ดำเนินการทบทวนและประเมินวัตถุประสงค์ที่เกี่ยวข้องกับสภาพภูมิอากาศของสมาคมทางการค้า ซึ่งพบว่ามีสมาคมทางการค้า 8 องค์กรที่มีวัตถุประสงค์ที่เกี่ยวข้องกับสภาพภูมิอากาศที่สอดคล้องกับจุดยืนด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศของไทยออยล์ ดังนี้

ชื่อสมาคม	ประเด็นการมีส่วนร่วม	จุดยืนด้านนโยบายสภาพภูมิอากาศและกิจกรรมที่เกี่ยวข้อง
เครือข่ายคาร์บอนนิวทรัลประเทศไทย (TCNN)	สนับสนุนในการขับเคลื่อนประเด็นด้านความยั่งยืนให้สอดคล้องกับสากล	ร่วมมือกับกรอบอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (UNFCCC) ในการดำเนินการด้านสภาพภูมิอากาศในประเทศไทย โดยสมาชิกของเครือข่ายคาร์บอนนิวทรัลประเทศไทยยังเข้าร่วมในโครงการ Climate Neutral Now ซึ่งสอดคล้องกับเป้าหมายของความตกลงปารีส ส่งเสริมความร่วมมือระหว่างภาคเอกชน ภาครัฐ และชุมชนท้องถิ่น เพื่อลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ตลอดจนสนับสนุนการเติบโตอย่างยั่งยืนในสังคมที่เป็นมิตรต่อสภาพภูมิอากาศ และมุ่งสู่การปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ตามเป้าหมายของความตกลงปารีส สนับสนุนการสร้างเวทีแลกเปลี่ยนความรู้ระหว่างองค์กรในเครือข่าย เพื่อจัดการและลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก โดยมีเป้าหมายเพื่อความเป็นกลางทางคาร์บอนในระดับองค์กร ผลักดันให้มีมาตรการส่งเสริมและสิ่งจูงใจจากรัฐบาล รวมถึงการเข้าถึงแหล่งเงินทุนและการสนับสนุนในรูปแบบต่าง ๆ เพื่อกระตุ้นให้เกิดการมีส่วนร่วมในโครงการหรือมาตรการที่มุ่งเน้นการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก
องค์กรธุรกิจเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน (TBCSD)		ส่งเสริมความตระหนักด้านสิ่งแวดล้อมในภาคธุรกิจภายใต้แนวคิด “การพัฒนาที่ยั่งยืน” เร่งรัดการเปลี่ยนแปลงสู่โลกที่ยั่งยืนโดยทำให้ธุรกิจที่ยั่งยืนในประเทศไทยประสบความสำเร็จมากยิ่งขึ้น จัดการประชุมเพื่อหารือเกี่ยวกับการดำเนินงานด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศร่วมกับองค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจกแห่งประเทศไทย (TGO) และสมาชิกภาคเอกชนจากบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เสนอบริการการรับรองการลดคาร์บอน เช่น โครงการฉลากคาร์บอนสำหรับอาคาร เพื่อส่งเสริมการใช้มาตรการประหยัดพลังงานในภาคอสังหาริมทรัพย์ โดยการรับรองนี้สะท้อนถึงการนำแนวปฏิบัติสำหรับการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกมาใช้ในองค์กร
สถาบันน้ำและสิ่งแวดล้อมเพื่อความยั่งยืน		ดำเนินกิจกรรมที่สอดคล้องกับเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนของสหประชาชาติ (SDGs) รวมถึงเป้าหมายที่ 13 การรับมือกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ เสนอบริการด้านที่ปรึกษาและการให้ความเชื่อมั่นสำหรับคาร์บอนฟุตพรินท์ของผลิตภัณฑ์และองค์กร
สมาคมเครือข่ายโกลบอลคอมแพ็กแห่งประเทศไทย		ดำเนินการในฐานะเครือข่ายท้องถิ่นของสหประชาชาติโกลบอลคอมแพ็ก (UNGC) โดยให้การสนับสนุนและความร่วมมือระหว่างสมาชิกเพื่อให้บรรลุมาตรฐานสากลในด้านความรับผิดชอบขององค์กร สนับสนุนบริษัทสมาชิกทุกขนาดจากทุกภาคส่วนในการแก้ไขปัญหาที่ซับซ้อนตลาดการเดินทางสู่ความยั่งยืน สนับสนุนให้บริษัทดำเนินธุรกิจอย่างรับผิดชอบ โดยปรับกลยุทธ์และการดำเนินงานให้สอดคล้องกับหลักการสิบประการ และดำเนินการเชิงกลยุทธ์เพื่อส่งเสริมเป้าหมายระดับสังคมในวงกว้าง เช่น เป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนของสหประชาชาติ เป็นต้น ดำเนินกิจกรรมที่สอดคล้องกับหลักการสิบประการของสหประชาชาติโกลบอลคอมแพ็ก ในด้านสิทธิมนุษยชน แรงงาน สิ่งแวดล้อม และการต่อต้านทุจริต ซึ่งรวมถึงเป้าหมายการพัฒนาที่อย่างยั่งยืนเป้าหมายที่ 13การรับมือกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ
สถาบันปิโตรเลียมแห่งประเทศไทย (PTIT)	สนับสนุนในการยกระดับขีดความสามารถในการแข่งขันกับกลุ่มอุตสาหกรรม เพื่อการดำเนินงานที่เป็นเลิศ	เป็นองค์กรที่มีความเป็นกลาง มีความเป็นอิสระและไม่แสวงหากำไร ที่ส่งเสริมความเข้าใจที่ดีขึ้นเกี่ยวกับอุตสาหกรรมปิโตรเลียม ปิโตรเคมี และอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องในประเทศไทย โดยเน้นการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ การให้บริการด้านข้อมูล การให้บริการทางเทคนิค การสนับสนุนด้านนโยบายสาธารณะและกฎระเบียบ เพื่อให้มั่นใจได้ว่าเกิดการพัฒนาอย่างยั่งยืนและความสามารถในการแข่งขันของอุตสาหกรรมและประเทศ หนึ่งในภารกิจคือการอำนวยความสะดวกและสนับสนุนการพูดคุยอย่างเปิดเผยระหว่างรัฐบาล ภาคอุตสาหกรรม และสถาบันการศึกษา เพื่อกำหนดนโยบายสาธารณะและกฎระเบียบที่มีความเข้มแข็งและปฏิบัติได้จริง รวมถึงมาตรฐานอุตสาหกรรมและแนวปฏิบัติที่ดีที่สุด
สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย		สนับสนุนเป้าหมายความเป็นกลางทางคาร์บอนและเป้าหมายการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ของประเทศไทย สนับสนุนการขับเคลื่อนไปสู่เศรษฐกิจการลดคาร์บอน สนับสนุนการลดบทบาทของก๊าซฟอสซิลในสัดส่วนพลังงานของประเทศ ร่วมมือกับองค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก (TGO) ในการพัฒนาระบบการซื้อขายคาร์บอนเครดิต
หอการค้าไทย และสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย		ดำเนินการเป็นเจ้าภาพการประชุมเพื่อนำเสนอภาพรวมความก้าวหน้าในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจชีวภาพ เศรษฐกิจหมุนเวียน และเศรษฐกิจสีเขียว (BCG) กับ ESG สู่ความยั่งยืน ซึ่งสอดคล้องกับเป้าหมายการบรรลุความเป็นกลางทางคาร์บอนภายในปี พ.ศ. 2593 และเป้าหมายการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ภายในปี พ.ศ. 2608 มีส่วนร่วมกับกรุงเทพมหานครในการแสวงหาโอกาสในการพัฒนารูปแบบการดำเนินงานเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ/เมืองอัจฉริยะ และการติดตั้งสถานีชาร์จยานยนต์ไฟฟ้า เสนอแนวทางเพื่อส่งเสริมการใช้ยานยนต์ไฟฟ้าเพื่อการพาณิชย์ รวมถึงการดำเนินการพัฒนาระบบการบริหารจัดการยานยนต์ไฟฟ้าเพื่อการพาณิชย์แบบบูรณาการ และเสนอแนวทางส่งเสริมการใช้พลังงานทดแทนต่อคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.) จัดทำข้อเสนอเพื่อปรับปรุงกฎระเบียบผ่านแนว Quick Win สำหรับการซื้อขายพลังงานหมุนเวียนผ่านเครือข่ายภาครัฐให้กับ กกร. เป็นตัวแทนประเทศไทยในการร่วมมือกับธนาคารโลกเพื่อสำรวจความเป็นไปได้ในการดำเนินโครงการคาร์บอนต่ำในเศรษฐกิจไทยและการจัดจั้งตลาดคาร์บอนเครดิต สนับสนุนธนาคารแห่งประเทศไทยในการขับเคลื่อนมาตรฐานการจัดกลุ่มกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่คำนึงถึงสิ่งแวดล้อมของไทย (Thailand Taxonomy) ระยะที่ 1