การกำกับดูแลกิจการ
ความท้าทาย ความเสี่ยง
และผลกระทบ



ความมุ่งมั่น และเป้าหมาย
แนวทางการบริหารจัดการ
แนวทางการบริหารจัดการ
กลุ่มไทยออยล์ยึดถือแนวปฏิบัติตามหลักการกำกับดูแลกิจการที่ดีในการดำเนินธุรกิจ เป็นรากฐานสำคัญในการสร้างความเป็นธรรมโปร่งใส และเสริมสร้างองค์กรให้มีประสิทธิภาพ อันเป็นหัวใจที่นำไปสู่ความสำเร็จและการเติบโตอย่างยั่งยืน
โปร่งใส และเสริมสร้างองค์กรให้มีประสิทธิภาพ อันเป็นหัวใจที่นำไปสู่ความสำเร็จและการเติบโตอย่างยั่งยืน



โครงสร้างและองค์ประกอบของคณะกรรมการบริษัทฯ
คณะกรรมการบริษัทฯ
องค์ประกอบของคณะกรรมการบริษัทฯ
คุณสมบัติของคณะกรรมการบริษัทฯ
ประกอบด้วยบุคคลที่มีความสามารถ ได้รับความเชื่อถือ เป็นที่ยอมรับโดยทั่วไป และต้องมีความหลากหลายทั้งในทักษะ ความรู้ ความเชี่ยวชาญ ประกอบด้วย ด้านพลังงาน /ปิโตรเลียม/ปิโตรเคมี ด้านวิศวกรรมศาสตร์ ด้านบัญชี/การเงิน ด้านกฎหมาย/นิติศาสตร์ ด้านเศรษฐศาสตร์ ด้านรัฐศาสตร์/สังคมศาสตร์ ด้านความมั่นคง ด้านเทคโลยีสารสนเทศและดิจิทัล ด้านบริหารธุรกิจ/บริหารองค์กร/กำกับดูแลกิจการ ด้านวิทยาศาสตร์/นวัตกรรม/สิ่งแวดล้อม โดยประกอบด้วยผู้มีความรู้ในธุรกิจของบริษัทฯ อย่างน้อย 3 คน ด้านกฎหมายอย่างน้อย 1 คน และด้านบัญชีการเงินอย่างน้อย 1 คน รวมถึงมีการจัดทำตารางแสดงทักษะ ความรู้ ความเชี่ยวชาญของคณะกรรมการบริษัทฯ (Board Skill Matrix)
กระบวนการสรรหาและแต่งตั้งกรรมการบริษัทฯ
กระบวนการสรรหาและแต่งตั้งกรรมการบริษัทฯ และนโยบายความหลากหลายของคณะกรรมการบริษัทฯ กลุ่มไทยออยล์กำหนดหลักเกณฑ์ในการคัดเลือกและกระบวนการแต่งตั้งกรรมการที่เป็นไปตามกฎหมายและหลักเกณฑ์ที่เกี่ยวข้องตามข้อมูลที่ปรากฏในคู่มือ CG โดยมีนโยบายความหลากหลายในการสรรหากรรมการที่ต้องมีคุณสมบัติที่สอดคล้องตามกฎหมายและหลักเกณฑ์ที่กำหนด โดยพิจารณาจากประสบการณ์ ความรู้ ความสามารถที่จะเป็นประโยชน์ต่อกลุ่มไทยออยล์ และไม่นำความแตกต่างทางเพศ เผ่าพันธุ์ เชื้อชาติ สัญชาติ หรือถิ่นกำเนิด มาเป็นข้อจำกัดด้านคุณสมบัติ รวมถึงพิจารณาความหลากหลายของความเชี่ยวชาญในภาพรวม โดยได้จัดทำ Board Skill Matrix สำหรับใช้ประกอบการพิจารณา เพื่อให้คณะกรรมการบริษัทฯ มีความเชี่ยวชาญที่หลากหลายและสอดคล้องกับกลยุทธ์ในการดำเนินธุรกิจของกลุ่มไทยออยล์ รวมถึงมีการค้นหารายชื่อบุคคลที่มีคุณสมบัติเหมาะสมจากบัญชีรายชื่อคณะกรรมการรัฐวิสาหกิจของสำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (Directors’ Pool) และบัญชีรายชื่อกรรมการอาชีพในทำเนียบ IOD (IOD Chartered Director) ซึ่งเป็นบัญชีที่รวบรวมรายชื่อบุคคลที่มีความรู้ ความสามารถ และความเชี่ยวชาญในด้านต่างๆ โดยคณะกรรมการบริษัทฯ ซึ่งประกอบด้วยบุคคลที่มีความสามารถ เป็นที่ยอมรับโดยทั่วไปจะได้รับการเลือกตั้งจากผู้ถือหุ้นในการประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี โดยในทุกปีจะมีกรรมการออกจากตำแหน่งตามที่ระบุไว้ในข้อบังคับบริษัทฯ และกรรมการที่พ้นจากตำแหน่งสามารถได้รับการเสนอชื่อและเลือกให้กลับเข้ามารับตำแหน่งอีกได้โดยกรรมการ แต่ละรายได้รับการเลือกตั้งเป็นรายบุคคลและต้องได้คะแนนเสียงเห็นชอบเกินกว่ากึ่งหนึ่งของจำนวนเสียงทั้งหมดของผู้ถือหุ้นที่มาประชุมและออกเสียงลงคะแนน
การกำหนดค่าตอบแทนกรรมการ
คณะกรรมการบริษัทฯ ได้แต่งตั้งคณะกรรมการสรรหาและพิจารณาค่าตอบแทน เพื่อทำหน้าที่พิจารณาทบทวนและเสนอรูปแบบ ตลอดจนพิจารณาค่าตอบแทนให้เหมาะสมกับหน้าที่ความรับผิดชอบของกรรมการ ผลการดำเนินงานของบริษัทฯ สภาพเศรษฐกิจโดยรวม และเทียบเคียงกับบริษัทที่อยู่ในอุตสาหกรรมเดียวกัน เป็นต้น เพื่อให้ค่าตอบแทนอยู่ในระดับที่สามารถจูงใจ จากนั้น จึงนำเสนอต่อคณะกรรมการบริษัทฯ เพื่อพิจารณาให้ความเห็นชอบ ก่อนนำเสนอต่อที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นเพื่อพิจารณาอนุมัติต่อไป
คุณสมบัติกรรมการอิสระ
กลุ่มไทยออยล์ได้กำหนดคุณสมบัติของกรรมการอิสระไว้อย่างชัดเจนสอดคล้องและเข้มกว่าที่คณะกรรมการกำกับตลาดทุน และเกณฑ์การประเมินด้านความยั่งยืนดาวโจนส์ (Dow Jones Sustainability Indices: DJSI) หรือ MSCI (Morgan Stanley Capital International) Index กำหนด นอกจากนี้ บริษัทฯ กำหนดให้กรรมการอิสระจะต้องมีความเป็นอิสระจากผู้ถือหุ้นรายใหญ่ หรือกลุ่มของผู้ถือหุ้นรายใหญ่ และผู้บริหารของบริษัทฯ ที่มีความสามารถในการเข้าถึงข้อมูลทางการเงินและทางธุรกิจของบริษัทฯ รวมถึงธุรกิจอื่นอย่างเพียงพอ เพื่อแสดงความคิดเห็นอย่างเสรีในการปกป้องผลประโยชน์ของผู้ถือหุ้นรายย่อย และสามารถเข้าร่วมประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ อย่างสม่ำเสมอ
รายชื่อคณะกรรมการบริษัท ณ วันที่ 1 มกราคม 2568 | คุณสมบัติกรรมการอิสระ | ||||
DJSI | MSCI (Management) | MSCI
(Other Interests)
| ก.ล.ต | บมจ. ไทยออยล์ | |
1.พลอากาศเอก ชานนท์ มุ่งธัญญา (ประธานกรรมการ) | |||||
2. พลโท อภิชาติ ไชยะดา | |||||
3. ร้อยตำรวจเอก ปิยะ รักสกุล | |||||
4. พลตำรวจโท ธิติ แสงสว่าง | |||||
5. นายกฤษณ์ อิ่มแสง | |||||
6. รศ. ดร. สิทธิเดช พงศ์กิจวรสิน | |||||
7. นางปานทิพย์ ศรีพิมล | |||||
8. นายประจักษ์ บุญยัง | |||||
9. ดร. สมภพ พัฒนอริยางกูล | |||||
10. นายกรพจน์ อัศวินวิจิตร | |||||
11. นางสาวเพียงพนอ บุญกล่ำ | |||||
12. นางสาวเพ็ญรัศมิ์ ภูริชธนะเลิศ | |||||
13. นายประสงค์ อินทรหนองไผ่ | |||||
14. นางสาวภัทรลดา สง่าแสง | |||||
15. นายบัณฑิต ธรรมประจำจิต (ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่) | |||||
จำนวน | 14 | 10 | 9 | 8 | 8 |
องค์ประกอบของคณะกรรมการบริษัทฯ ณ วันที่ 1 มกราคม 2568
โครงสร้างของ คณะกรรมการบริษัทฯ
กรรมการที่เป็นผู้บริหาร
1
กรรมการที่ไม่เป็นผู้บริหาร
14
กรรมการอิสระ
8
เพศ
ชาย
13
หญิง
2
ระยะเวลาการดำรงตำแหน่ง(1)
เฉลี่ย
2.59 ปี
การเข้าร่วมประชุม คณะกรรมการบริษัทฯ(2)
เฉลี่ย
99.52%
การดำรงตำแหน่ง กรรมการ
ไม่เกิน
3 บริษัทจดทะเบียน ในตลาดหลักทรัพย์ฯ
โครงสร้างของ
คณะกรรมการบริษัทฯ (1)
(ตามคุณสมบัติกรรมการอิสระของบริษัทฯ)
1
กรรมการที่เป็นผู้บริหาร
14
กรรมการที่ไม่เป็นผู้บริหาร
8
กรรมการอิสระ
เพศ
11
ชาย
4
หญิง
ระยะเวลาการดำรงตำแหน่ง(1)
เฉลี่ย
0.98
ปี
การเข้าร่วมประชุม คณะกรรมการบริษัทฯ(2)
เฉลี่ย
99.60
ร้อยละ
การดำรงตำแหน่ง กรรมการ
ไม่เกิน
3
บริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ
โครงสร้างของ
คณะกรรมการบริษัทฯ (1)
(ตามคุณสมบัติกรรมการอิสระของบริษัทฯ)
1
กรรมการที่เป็นผู้บริหาร
14
กรรมการที่ไม่เป็นผู้บริหาร
8
กรรมการอิสระ
เพศ
11
ชาย
4
หญิง
ระยะเวลาการดำรงตำแหน่ง(1)
เฉลี่ย
0.99
ปี
การเข้าร่วมประชุม คณะกรรมการบริษัทฯ(2)
เฉลี่ย
99.60
ร้อยละ
การดำรงตำแหน่ง กรรมการ
ไม่เกิน
3
บริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ
หมายเหตุ :
(1) กรรมการอิสระ จำนวน 8 คน ณ วันที่ 1 มกราคม 2568
(2) ระยะเวลาการดำรงตำแหน่ง สำหรับปีสิ้นสุด ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2567
(3) รายงานการเข้าร่วมประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ สำหรับปีสิ้นสุด ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2567
บทบาทและความรับผิดชอบของคณะกรรมการบริษัทฯ
คณะกรรมการบริษัทฯ และผู้บริหารให้ความสำคัญในการปฏิบัติตามหลักการกำกับดูแลกิจการที่ดีมาตลอด โดยกำหนดพันธกิจของกลุ่มไทยออยล์ คือ “เสริมสร้างคุณภาพชีวิตของผู้มีส่วนได้เสียและมอบผลตอบแทนที่ยั่งยืนด้วยนวัตกรรม เทคโนโลยีและโครงสร้างธุรกิจที่แข็งแกร่ง ภายใต้การบริหารจัดการชั้นแนวหน้าและความรับผิดชอบด้านการกำกับดูแลกิจการที่ดี” โดยคณะกรรมการบริษัทฯ ได้แต่งตั้งคณะกรรมการเฉพาะเรื่องจำนวน 4 คณะ ประกอบด้วยคณะกรรมการตรวจสอบ คณะกรรมการสรรหาและพิจารณาค่าตอบแทน คณะกรรมการกำกับดูแลกิจการที่ดีและการพัฒนาอย่างยั่งยืน และคณะกรรมการบริหารความเสี่ยง เพื่อพิจารณากลั่นกรองงานด้านต่างๆ ตามขอบเขตที่ได้รับมอบหมายของคณะกรรมการเฉพาะเรื่องแต่ละคณะ รวมถึงการรายงานผลการปฏิบัติหน้าที่ต่อที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ เพื่อทราบอย่างสม่ำเสมอ
ทั้งนี้ คณะกรรมการเฉพาะเรื่องต้องมีคุณสมบัติที่สอดคล้องตามกฎหมายและหลักเกณฑ์ที่กำหนด บริษัทฯ ได้กำหนดคุณสมบัติ วาระการดำรงตำแหน่ง หน้าที่ความรับผิดชอบ การรายงานของคณะกรรมการเฉพาะเรื่อง รวมถึงการประเมินผลการปฏิบัติงาน ไว้ในกฎบัตรของคณะกรรมการเฉพาะเรื่องแต่ละคณะของบริษัทฯ ด้วย
ในปี 2567 คณะกรรมการบริษัทฯ ได้มีบทบาทในการพิจารณา ทบทวน ติดตามความคืบหน้าของแนวปฏิบัติที่เกี่ยวข้องกับการกำกับดูแลกิจการ ซึ่งสรุปได้ดังนี้
- พิจารณาอนุมัติการปรับปรุงกฎบัตรคณะกรรมการเฉพาะเรื่อง นโยบายต่อต้านการทุจริต และคู่มือหลักการกำกับดูแลกิจการที่ดีและจรรยาบรรณในการดำเนินธุรกิจ เพื่อให้สอดคล้องกับหลักเกณฑ์ มีความชัดเจน และครบถ้วนยิ่งขึ้น
- ติดตามความคืบหน้าของโครงการต่างๆ ด้านการกำกับดูแลกิจการที่ดี (Corporate Governance: CG) ด้านความรับผิดชอบต่อสังคม (Corporate Social Responsibility: CSR) และด้านความยั่งยืน (Sustainable Development: SD)


นโยบายความหลากหลายของคณะกรรมการบริษัทฯ


การประเมินผลการปฏิบัติงานของคณะกรรมการบริษัทฯ
1. ประเมินผลการปฏิบัติงานของคณะกรรมการบริษัทฯ ทั้งคณะ
2. ประเมินผลการปฏิบัติงานของกรรมการบริษัทฯ รายบุคคล (ประเมินตนเอง)
3. ประเมินผลการปฏิบัติงานของกรรมการบริษัทฯ รายบุคคล (ประเมินกรรมการท่านอื่น)
4. ประเมินผลการปฏิบัติงานของคณะกรรมการเฉพาะเรื่อง (กรรมการเฉพาะเรื่องประเมินการทำงานของคณะกรรมการเฉพาะเรื่องที่ตนเองดำรงตำแหน่งเท่านั้น) ตลอดจนการกำหนดนโยบายให้มีการจัดทำการประเมินผลการปฏิบัติงานของคณะกรรมการบริษัทฯ โดยผู้ประเมินอิสระทุก 3 ปี เพื่อนำความคิดเห็นและข้อเสนอแนะที่ได้รับมาปรับใช้ในการพัฒนาการปฏิบัติงานของคณะกรรมการบริษัทฯ โดยมีการให้ที่ปรึกษาอิสระมาดำเนินกระบวนการประเมินผลการปฏิบัติงานของคณะกรรมการบริษัทฯ ล่าสุดเมื่อปี 2566
สำหรับปี 2567 กลุ่มไทยออยล์ได้นำแนวทางและแบบประเมินซึ่งที่ปรึกษาอิสระได้ปรับปรุงเมื่อปี 2566 มาใช้ในการประเมินตนเองและได้เปิดเผยกระบวนการ หลักเกณฑ์ และผลการประเมินในรายงานประจำปี (แบบ 56-1 One Report)



การส่งเสริมความรู้และการอบรม
- หลักสูตร Director Accreditation Program (DAP) รุ่นที่ 220/2024
- หลักสูตร Director Accreditation Program (DAP) รุ่นที่ 224/2024
- หลักสูตร Advanced Audit Committee Program (AACP) รุ่นที่ 53/2024
- หลักสูตร Director Certification Program (DCP) รุ่นที่ 365/2024
ที่จะเป็นประโยชน์ต่อไทยออยล์และไม่นำความแตกต่างทางเพศ เผ่าพันธุ์ เชื้อชาติ สัญชาติ หรือถิ่นกำเนิด มาเป็นข้อจำกัดด้านคุณสมบัติ
ความเชี่ยวชาญของคณะกรรมการบริษัทฯ
โดยควรประกอบด้วยผู้ที่มีความรู้ในธุรกิจของไทยออยล์อย่างน้อย 3 คน ด้านกฎหมายอย่างน้อย 1 คน และด้านบัญชีการเงินอย่างน้อย 1 คน ทั้งยังต้องประกอบด้วยกรรมการอิสระ โดยมีจำนวนอย่างน้อย 1 ใน 3 ของกรรมการทั้งคณะ และไม่น้อยกว่า 3 คน


ตารางแสดงทักษะ ความรู้ ความเชี่ยวชาญ (Board Skill Matrix) ของคณะกรรมการบริษัท ไทยออยล์ จำกัด (มหาชน) | ||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
รายชื่อกรรมการ ณ วันที่ 1 มกราคม 2568 | ทักษะ ความรู้ ความเชี่ยวชาญ | คุณสมบัติอื่น | ||||||||||||
1.พลังงาน/ปิโตรเลียม/ปิโตรเคมี | 2.วิศวกรรมศาสตร์ | 3.บัญชี/การเงิน | 4.กฎหมาย/นิติศาสตร์ | 5.เศรษฐศาสตร์ | 6.รัฐศาสตร์/สังคมศาสตร์ | 7.ความมั่นคง | 8.IT/Digital | 9.บริหารธุรกิจ/บริหารองค์กร/กำกับดูแลกิจการ | 10.วิทยาศาสตร์/นวัตกรรม/สิ่งแวดล้อม | กรรมการอิสระ | Director Pool สคร./IOD | จำนวนตำแหน่งกรรมการในบริษัท จดทะเบียนอื่น | ||
1. พลอากาศเอก ชานนท์ มุ่งธัญญา(ประธานกรรมการ) | 1 | |||||||||||||
2. พลโท อภิชาติ ไชยะดา | – | |||||||||||||
3. ร้อยตำรวจเอก ปิยะ รักสกุล | – | |||||||||||||
4. พลตำรวจโท ธิติ แสงสว่าง | – | |||||||||||||
5. นายกฤษณ์ อิ่มแสง | – | 1 | ||||||||||||
6. รศ. ดร. สิทธิเดช พงศ์กิจวรสิน | – | |||||||||||||
7. นางปานทิพย์ ศรีพิมล | – | |||||||||||||
8. นายประจักษ์ บุญยัง | – | – | ||||||||||||
9. ดร.สมภพ พัฒนอริยางกูล | – | – | ||||||||||||
10. นายกรพจน์ อัศวินวิจิตร | – | 1 | ||||||||||||
11. นางสาวเพียงพนอ บุญกล่ำ | – | – | ||||||||||||
12. นางสาวเพ็ญรัศมิ์ ภูริชธนะเลิศ | – | – | ||||||||||||
13. นายประสงค์ อินทรหนองไผ่ | – | – | – | |||||||||||
14. นางสาวภัทรลดา สง่าแสง | – | 1 | ||||||||||||
15. นายบัณฑิต ธรรมประจำจิต
(ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่/ เลขานุการคณะกรรมการ) | – | 1 | ||||||||||||
Total | 7 | 3 | 2 | 5 | 5 | 6 | 4 | 0 | 15 | 1 | 8 | 12 |
Leather detail shoulder contrastic colour contour stunning silhouette working peplum.
กรณีที่มีวุฒิการศึกษาในสาขานั้นๆ
กรณีที่มีความเชี่ยวชาญ หรือ มีประสบการณ์ทำงานในสาขานั้นไม่ต่ำกว่า 3 ปี โดยกรุณาระบุ 5 ลำดับแรกที่มีความเชี่ยวชาญมากที่สุดเท่านั้น
กรณีที่มีวุฒิการศึกษา และมีความเชี่ยวชาญหรือประสบการณ์ในสาขาวิชานั้นๆ ด้วย
ในปี 2567 หากพิจารณาตามหลักเกณฑ์การจัดกลุ่มอุตสาหกรรมธุรกิจของ Global Industry Classification Standard (GICS) ในหมวดอุตสาหกรรม Energy Industry ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2567 โดยคณะกรรมการบริษัทฯ มีทักษะ ความรู้ ความเชี่ยวชาญที่สำคัญสอดคล้องตามเกณฑ์ดังกล่าว ดังนี้
- กรรมการอิสระ และกรรมการที่ไม่เป็นผู้บริหาร (ไม่รวมประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่) มีความรู้และประสบการณ์ด้านพลังงาน/ปิโตรเลียม/ปิโตรเคมี จำนวน 6 คน
- กรรมการอิสระ และกรรมการที่ไม่เป็นผู้บริหาร (ไม่รวมประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่) มีความรู้และประสบการณ์ด้านความเสี่ยง จำนวน 2 คน

ดัชนีวัดผลการดำเนินงานด้านการพัฒนาเพื่อความยั่งยืน
กลุ่มไทยออยล์ได้กำหนดดัชนีวัดผลการดำเนินงาน ประจำปี 2567 ที่เชื่อมโยงกับค่าตอบแทนของประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ และคณะกรรมการเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน ตลอดจนการถ่ายทอดดัชนีชี้วัดประสิทธิภาพการทำงานขององค์กรเพื่อความยั่งยืนสู่พนักงานทุกระดับตามสายงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้มั่นใจว่าจะสามารถบรรลุเป้าหมายที่กำหนด ทั้งด้านการบริหารจัดการประเด็นด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และการกำกับดูแลกิจการ ดังนี้
ส่วนที่ 1) ดัชนีวัดประสิทธิภาพการดำเนินงานขององค์กร (ร้อยละ 70)
กลุ่มไทยออยล์กำหนดดัชนีวัดประสิทธิภาพการดำเนินงานตามหลักการของ Balanced Scorecard เพื่อให้สอดคล้องกับแนวทาง “TOP for the Great Future” โดยแบ่งดัชนีวัดผลการดำเนินงานออกเป็น 3 ด้าน ได้แก่
มุมมองด้านการดำเนินธุรกิจตามปกติ (Business as Usual)
ร้อยละ 45
ตัววัดกำไรสุทธิจากการดำเนินงาน (Net Operating Profit)
• ตัววัดกำไรสุทธิจากการดำเนินงาน (Net Operating Profit)
• ตัววัดผลตอบแทนการลงทุน เฉลี่ย 7 ปี (Return on Invested Capital (ROIC) 7-Year Average)
• ตัววัดผลด้านความปลอดภัย ทั้งด้านความปลอดภัยส่วนบุคคล (Total Recordable Case Frequency: TRCF) และความปลอดภัยในกระบวนการผลิต (Process Safety Event Tier 1)
• ตัววัดผลด้านความพร้อมในการผลิต (Operational Availability)
• ตัววัดประสิทธิภาพการใช้พลังงานและปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจก (Energy Efficiency and GHG Emission)
• ตัววัดผลด้านการบริหารจัดการต้นทุนและการใช้ทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพ (Cash Operating Cost)
• ตัววัดผลด้านผลิตภาพ (Productivity Improvement)
มุมมองด้านโครงการเชิงกลยุทธ์ (Strategic Initiatives)
ร้อยละ 29
มุมมองด้านการสนับสนุนกลยุทธ์และความยั่งยืน (Strategic Enablers & Sustainability)
ร้อยละ 26
• ตัววัดผลด้านการคงอันดับความน่าเชื่อถือให้อยู่ระดับน่าลงทุน (Investment Grade Credit Rating)
• ความพร้อมของบุคลากรและองค์กร (People & Organization Readiness)
• ตัววัดผลด้านโครงการดิจิทัล (Digitalization)
• ด้านนวัตกรรม (Innovation)
• ความผูกพันของผู้มีส่วนได้เสีย (ลูกค้า ชุมชน และนักลงทุน) (Stakeholder Engagement (Customer, Community & Investor))
• ด้านความยั่งยืนในระดับสากล (Dow Jones Sustainability Indices: DJSI)
ส่วนที่ 2) ดัชนีวัดผลด้านศักยภาพความเป็นผู้นำ (Leadership Competency) (ร้อยละ 30)
การประเมินด้านความเป็นผู้นำของประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ใน 6 หัวข้อ ได้แก่ การสร้างวิสัยทัศน์ร่วม การบริหารจัดการที่มุ่งเน้นการดำเนินการตามแผนกลยุทธ์
การบริหารความเสี่ยง การบริหารทีมให้มีประสิทธิผลสูงสุด การสอนงานและการพัฒนา และความเป็นเลิศส่วนบุคคล ทั้งนี้ การดำเนินการด้านความยั่งยืนจะได้รับการประเมินผลผ่านดัชนีวัดผลในด้านต่างๆ ทั้ง 3 ด้านของ Balance Scorecard และด้านศักยภาพความเป็นผู้นำ
ค่าตอบแทนของประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (Chief Executive Officer)
ผลของการประเมินเหล่านี้แปลเป็นค่าตอบแทน ปัจจุบันค่าตอบแทนมาตรฐานของไทยออยล์สำหรับผู้บริหารประกอบด้วยเงินเดือนมูลฐาน โบนัสประจำปี และค่าตอบแทนผันแปรตามผลการปฏิบัติงานประจำปี ค่าตอบแทนเหล่านี้จ่ายเป็นรายปีและจ่ายโดยตรงให้แก่ผู้บริหาร ระยะเวลาของการประเมินผลการปฏิบัติงานและการจ่ายค่าตอบแทนสำหรับประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ในปัจจุบันคือ 1 ปี และ ไม่มีการใช้โบนัสแบบที่จ่ายในอนาคต (deferred bonus)
ตามที่กล่าวไว้ข้างต้น ไทยออยล์จะพิจารณาค่าตอบแทนเหล่านี้ให้ภายหลังจากการประเมินผลการปฏิบัติงานของผู้บริหารแต่ละคน ไทยออยล์อ้างอิงบทบัญญัติการเรียกคืนค่าตอบแทนจากมาตรา 89 และมาตรา 281/2 แห่งพระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ. 2551 ซึ่งกำหนดให้ฝ่ายบริหารต้องปฏิบัติหน้าที่ด้วยความรับผิดชอบ ปฏิบัติตามกฎหมาย กฎเกณฑ์ขององค์กร และวัตถุประสงค์ขององค์กร ผู้บริหารจะต้องตอบสนองต่อมติที่ประชุมคณะกรรมการและข้อตกลงจากผู้ลงทุนด้วย ในกรณีที่กรรมการหรือผู้บริหารรายใดละเลยการปฏิบัติหน้าที่หรือประพฤติมิชอบหรือประพฤติฝ่าฝืนกฎหมาย ข้อบังคับ หรือข้อตกลงใด ๆ ที่ทำไว้กับคณะกรรมการ และ/หรือ ผู้ลงทุน จะต้องคืนเงินค่าตอบแทนและผลประโยชน์ที่ตนได้รับกลับคืนบริษัทแล้วและอาจต้องระวางโทษทางแพ่ง และ/หรือ โทษทางอาญา
ปี 2567
ค่าตอบแทนประธานเจ้าหน้าที่บริหาร
คณะกรรมการสรรหาและกำหนดค่าตอบแทนมีหน้าที่ประเมินผลการปฏิบัติงานประจำปีและค่าตอบแทนของประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เช่น เงินเดือน โบนัส และผลประโยชน์อื่นๆ ในนามของคณะกรรมการ และนำเสนอต่อคณะกรรมการเพื่ออนุมัติ
ผู้บริหารมีหน้าที่ดูแลธุรกิจและกิจกรรมประจำวันของบริษัท ในขณะที่ประธานเจ้าหน้าที่บริหารเป็นผู้บริหารระดับสูงที่รับผิดชอบด้านการบริหารจัดการบริษัทตามที่ได้รับมอบหมายจากคณะกรรมการบริษัท ประธานเจ้าหน้าที่บริหารต้องกำกับดูแลการบริหารงานของบริษัทอย่างเคร่งครัดตามแผนงานและงบประมาณที่ได้รับอนุมัติจากคณะกรรมการบริษัท โดยต้องแสดงความซื่อสัตย์สุจริตและมีความรับผิดชอบ เพื่อประโยชน์สูงสุดของบริษัทและผู้ถือหุ้น
ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและผู้บริหารทุกระดับร่วมกันกำหนดตัวชี้วัดผลการปฏิบัติงาน (KPI) ในแต่ละปีโดยเชื่อมโยงกับทิศทางกลยุทธ์และแผนธุรกิจระยะยาว (เช่น ผลตอบแทนทางการเงิน การดำเนินโครงการเชิงกลยุทธ์ที่สำคัญ และปัจจัยสนับสนุนเชิงกลยุทธ์ที่สำคัญ) เพื่อให้มั่นใจว่า KPI ขององค์กรนั้น ตอบสนองวิสัยทัศน์และปณิธานเชิงกลยุทธ์ในระยะยาว นอกเหนือจากความสำเร็จทางธุรกิจของไทยออยล์ ปัจจัยสนับสนุนการเติบโตที่ยั่งยืน ภาพลักษณ์องค์กร ความรับผิดชอบต่อสังคมและชุมชนด้วยการปฏิบัติที่โปร่งใสและเป็นประโยชน์อย่างแท้จริง
ค่าตอบแทนปี 2567 | ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร | ผู้บริหารระดับสูง* |
---|---|---|
ฐานเงินเดือน | 9,290,000 | 57,830,000 |
เงินจูงใจอื่นๆ | 8,941,000 | 38,080,000 |
รวม | 18,231,000 | 95,910,000 |
*รวมค่าตอบแทนของผู้บริหารระดับสูง 10 ท่าน ประกอบด้วยประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กรรมการผู้จัดการใหญ่ และรองกรรมการผู้จัดการใหญ่ |
ค่าตอบแทนพนักงานปี 2567 | ค่ามัธยฐานของ ค่าตอบแทนพนักงาน | ค่าเฉลี่ยของ ค่าตอบแทนพนักงาน |
---|---|---|
ค่ามัธยฐาน/ค่าเฉลี่ย ของค่าตอบแทนรายปีของพนักงานทั้งหมด ยกเว้น ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ | 974,000 | 1,364,000 |
อัตราส่วนของค่าเฉลี่ยหรือค่ามัธยฐานของค่าตอบแทนพนักงานและค่าตอบแทนรายปีของ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ | 18.72 | 13.37 |
ความเป็นเจ้าของของผู้บริหาร (Management Ownership)
กลุ่มไทยออยล์ได้กำหนดแนวทางการเป็นเจ้าของหุ้นบริษัทฯ เพื่อส่งเสริมให้ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ รวมถึงผู้บริหารระดับรองกรรมการผู้จัดการใหญ่ เป็นเจ้าของหุ้นบริษัทฯ ได้สูงถึง 5 – 7 เท่าของฐานเงินเดือนคำนวณรายปี เพื่อสร้างแรงจูงใจให้ผู้บริหารปฏิบัติงานโดยคำนึงถึงประโยชน์ของผู้ถือหุ้นไทยออยล์ และเพื่อขับเคลื่อนให้บริษัทฯ ประสบความสำเร็จในระยะยาวอย่างยั่งยืน รวมถึงได้รับความไว้วางใจจากนักลงทุน
ในปี 2567 ได้มีการรายงานการถือหลักทรัพย์บริษัทฯ ของผู้บริหารระดับสูงของบริษัทฯ รวมถึงคู่สมรสหรือผู้ที่อยู่กินฉันสามีภรรยา และบุตรที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะ ในรายงานประจําปี 2567 (แบบ 56 – 1 One Report)

การถือหุ้นบริษัทฯ (ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2567) | ||
---|---|---|
ตำแหน่ง | รายชื่อ | จำนวนเท่าของฐานเงินเดือนคำนวณรายปี |
ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและ
กรรมการผู้จัดการใหญ่ | นายบัณฑิต ธรรมประจำจิต | 0.13 |
การถือรองหุ้นบริษัทฯ โดยเฉลี่ย
ของผู้บริหารอื่นๆ | นายฉัตรฐาพงศ์ วังธนากร นางวนิดา บุญภิรักษ์ นางรุ่งนภา จันทร์ชูเกียรติ นายณัฐพล มีฤทธิ์ นายสันติ วาสนสิริ นายสุรชัย แสงสำราญ นางสาวสมพร บรรลือศรีเรือง นางสาววันวิสาข์ ญาณจินดา | 0.18 |
นายบัณฑิต ธรรมประจำจิต ถือหุ้น 42,400 หุ้น (ถือหุ้น 2,400 หุ้น และโดยคู่สมรส 40,000 หุ้น) นายฉัตรฐาพงศ์ วังธนากร ถือหุ้น 105,676 หุ้น นางวนิดา บุญภิรักษ์ ถือหุ้น 6,585 หุ้น นางรุ่งนภา จันทร์ชูเกียรติ จำนวน 100 หุ้น (โดยคู่สมรส)
นายณัฐพล มีฤทธิ์ ถือหุ้น 1,000 หุ้น นายสันติ วาสนสิริ ถือหุ้น 66,576 หุ้น (ถือหุ้น 10,976 หุ้น และโดยคู่สมรส 55,600 หุ้น) นายสุรชัย แสงสำราญ ถือหุ้น 107,000 หุ้น นางสาวสมพร บรรลือศรีเรือง ถือหุ้น 58,800 หุ้น และนางสาววันวิสาข์ ญาณจินดา ถือหุ้น 5,424 หุ้น |

เพื่อให้เกิดความร่วมมือในการดำเนินธุรกิจของบริษัทในกลุ่มไทยออยล์ เป็นไปในทิศทางเดียวกัน ตลอดจนการเสริมสร้างความสามารถในการแข่งขัน เพื่อบรรลุเป้าหมายระยะยาวรวมถึงการเติบโตอย่างยั่งยืน ไทยออยล์ได้กำหนดและประกาศใช้คู่มือการบริหารจัดการแบบกลุ่มไทยออยล์ตั้งแต่ปี 2558 โดยในปี 2567 ได้มีการปรับปรุงคู่มือ TOP Way of Conduct เป็น คู่มือ TOP Group Way of Conduct ซึ่งครอบคลุมกว่า 20 นโยบายที่สำคัญ และถือเป็นแนวทางปฏิบัติด้านการกำกับดูแลการดำเนินธุรกิจสำหรับผู้บริหาร ระดับจัดการ และพนักงานของบริษัทในกลุ่มไทยออยล์