การจัดการคุณภาพสิ่งแวดล้อม

การบริหารจัดการส่ิงแวดล้อม
![]() |
ระบบบริหารจัดการสิ่งแวดล้อม
จากพันธกิจของกลุ่มไทยออยล์ที่ยึดมั่นและตระหนักถึงความสำคัญของการดำเนินธุรกิจด้วยความรับผิดชอบต่อสังคมและชุมชน นำมาซึ่งการกำหนดนโยบาย คุณภาพ ความมั่นคง ความปลอดภัย อาชีวอนามัย สิ่งแวดล้อม และการจัดการพลังงาน กลุ่มไทยออยล์ เป็นกรอบในการดำเนินการภายใต้การจัดทำ ระบบการจัดการแบบ บูรณาการ (Integrated Management System: IMS) ซึ่งสอด คล้องตามมาตรฐาน (ISO 9001 ระบบบริหารงานคุณภาพ, ISO 14001ระบบการจัดการสิ่งแวดล้อม และ ISO 45001 ระบบการจัดการอาชีวอนามัยและความปลอดภัย) ส่งผลให้ กลุ่มไทยออยล์ สามารถดำเนินการด้านสิ่งแวดล้อมอย่างเป็นระบบ ควบคุม ลดผลกระทบ และรักษาไว้ซึ่งสิ่งแวดล้อมที่ดี ควบคู่ไปกับการเติบโตของธุรกิจอย่างยั่งยืน |
ภาพรวมนโยบายการบริหารจัดการสิ่งแวดล้อมตลอดห่วงโซ่คุณค่า
ไทยออลย์มีการบริหารจัดการสิ่งแวดล้อมผ่านนโยบายและแนวปฏิบัติครอบคลุมทุกกิจกรรมในห่วงโซ่คุณค่าของการดำเนินธุรกิจดังนี้
![]() |
|
![]() |
|
![]() |
|
![]() |
|
กลุ่มไทยออยล์มีการกำกับดูแลด้านสิ่งแวดล้อม โดยหน่วยงานด้านระบบการบริหารจัดการคุณภาพ และอาชีวอนามัยและความ ปลอดภัย ซึ่งสามารถเชื่อมโยงและติดตามงานบริหารจัดการด้านสิ่งแวดล้อมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทำให้การทำงานเชิงปฏิบัติ การและการพัฒนาเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ และบริหารจัดการผลกระทบด้านต่างๆที่อาจเกิดขึ้นจากการดำเนินงานอย่างเป็น ระบบ นอกจากนี้ผลการดำเนินงานด้านสิ่งแวดล้อมที่ต้องรายงานแก่หน่วยงานราชการจะได้รับการตรวจสอบจากผู้เชี่ยวชาญ ภายนอก เพื่อยืนยันความถูกต้องและทบทวนโดยคณะผู้บริหารสูงสุดของเครือไทยออยล์เป็นประจำทุกปี เพื่อกำหนดแนวทางการ พัฒนาอย่างต่อเนื่องต่อไป
|
กลุ่มไทยออยล์ตระหนักดีว่า การดำเนินธุรกิจด้านการกลั่นน้ำมันและปิโตรเคมีอันเป็นธุรกิจหลัก มีโอกาสส่งผลกระทบต่อสิ่ง แวดล้อมและสังคม หากไม่มีการบริหารจัดการที่ดี รวมถึงในปัจจุบัน ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียที่เกี่ยวข้องได้เข้ามามีบทบาทสำคัญใน การติดตามผลการดำเนินงานด้านสิ่งแวดล้อม และผลกระทบที่เกิดขึ้นจากการทำธุรกิจ ดังนั้นกลุ่มฯจึงมีความมุ่งมั่นในการ จัดการสิ่งแวดล้อมให้อยู่ในระดับดี เป็นที่ยอมรับในสากล และดีกว่าที่กฎหมายกำหนดไว้ กลุ่มฯได้ดำเนินการให้การจัดการด้าน สิ่งแวดล้อมในแต่ละพื้นที่เป็นไปตามมาตรฐานเดียวกัน เพื่อส่งเสริมกลยุทธ์องค์กรในการขยายการลงทุนทั้งในและต่างประเทศ ในการก้าวไปสู่การเป็นบริษัทชั้นนำในระดับภูมิภาค จึงไม่จำกัดแต่เพียงการปฏิบัติให้สอดคล้องกับกฎหมายและข้อกำหนดใน ปัจจุบัน และการเตรียมความพร้อมสำหรับการเปลี่ยนแปลงข้อกำหนดที่เข้มงวดขึ้นในอนาคตเท่านั้น กลุ่มไทยออยล์ยังได้ขับเคลื่อนการดำเนินงานสู่ความยั่งยืนผ่านแผนแม่บทสิ่งแวดล้อม (Environmental Master Plan) ซึ่งแผนดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งของแนวทางพัฒนาสู่ความยั่งยืน (Sustainable Development Roadmap) เพื่อจัดการ สิ่งแวดล้อมอย่างบูรณาการ โดยคำนึงถึงกฎหมายที่เกี่ยวข้อง แนวโน้มของอุตสาหกรรม การรับฟังผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย และ แนวปฏิบัติที่ดีในระดับสากล เช่น หลักการด้านสิทธิมนุษยชนสหประชาชาติ (United Nations Global Compact – UNGC), ดัชนีชี้วัดความยั่งยืนดาวโจนส์ (Dow Jones Sustainability Indexes – DJSI) และ การรายงานตามแนวทาง Global Reporting Initiative (GRI) เป็นต้น
|
กลุ่มไทยออยล์ใช้ระบบการจัดลำดับขั้นความสำคัญในการจัดการวัสดุเหลือทิ้ง (Waste Hierarchy) โดยให้ความสำคัญกับการ ลดการเกิดของเสียจากการดำเนินงานเป็นอันดับแรก (Minimization) ตามด้วยการพิจารณาคัดแยกของเสียแต่ละประเภท (Seperation) การนำกลับไปใช้ใหม่ (Reuse) การนำกลับไปแปรรูปใหม่ (Recycle) ที่เหลือจึงนำไปกำจัดแบบฝังกลบ (Landfill) ซึ่งเป็นการบริหารจัดการทรัพยากรอย่างคุ้มค่าตามพันธกิจและนโยบายด้านสิ่งแวดล้อมของกลุ่มไทยออยล์ นอกจากนี้ กลุ่มไทยออยล์มีนโยบายการจัดการของเสียโดยมุ่งมั่นลดการฝังกลบของเสียให้เป็นศูนย์ (Zero Waste to Landfill) และตั้งเป็น เป้าหมายในการบริหารจัดการกากของเสียอุตสาหกรรมขององค์กรภายในปี 2563
|
|
ไทยออยล์ได้บันทึกค่าใช้จ่ายด้านสิ่งแวดล้อมเพื่อติดตามประสิทธิภาพของโครงการด้านสิ่งแวดล้อม ซึ่งเป็นข้อมูลที่มีค่าต่อการวิเคราะห์ต้นทุนและผลประโยชน์ โดยค่าใช้จ่ายในการดูแลสิ่งแวดล้อมที่ได้บันทึกดังตารางต่อไปนี้ครอบคลุมหน่วยผลิตหลักทั้งหมด
|