ความรับผิดชอบต่อสังคมและชุมชน

ความรับผิดชอบต่อสังคมและชุมชน

การดำเนินงานด้านความรับผิดชอบต่อสังคมและชุมชนกลุ่มไทยออยล์ โดยแบ่งการดำเนินงานออกเป็น 3 ระดับ ประกอบด้วย

  •   • การบริหารจัดการขบวนการผลิตตามนโยบายด้านสิ่งแวดล้อมและพลังงาน ภายในโรงกลั่นที่ยั่งยืน (CSR in process)
  •   • ความรับผิดชอบต่อสังคมขององค์กรในส่วนของสังคมใกล้ ชุมชนรอบโรงกลั่น (CSR for Community)
  •   • สังคมไกลระดับประเทศ (CSR for Society)
  • โดยให้พนักงานมีส่วนร่วมในกิจกรรมและโครงการเพื่อสังคมเพื่อกระตุ้นสำนึกรับผิดชอบและบ่มเพาะจิตอาสาที่มีต่อสังคม ตลอดจน สื่อสารนโยบายการดำเนินงานเพื่อสังคมของกลุ่มไทยออยล์ให้ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกกลุ่มได้รับรู้และมีส่วนร่วมในการดำเนินงานตามแนวทางเพื่อสังคมเดียวกันอย่างเป็นระบบและต่อเนื่อง

  • กลยุทธ์การดำเนินงานด้านสังคมและชุมชน

  •         กลุ่มไทยออยล์มุ่งมั่นในการสร้างการมีส่วนร่วมกับชุมชน สอดคล้องกับวิสัยทัศน์ปี 2573 “สร้างสรรค์คุณภาพชีวิตด้วยพลังงาน และเคมีภัณฑ์ที่ยั่งยืน” โดยมุ่งมั่นดำเนินธุรกิจโรงกลั่นน้ำมันปิโตรเลียมและปิโตรเคมี ภายใต้กรอบการบริหารจัดการสู่ความเป็นเลิศและยึดมั่นในหลักบรรษัทภิบาล มีความรับผิดชอบต่อผู้มีส่วนได้เสีย สิ่งแวดล้อม ชุมชนและสังคม อันนำไปสู่องค์กรที่มีการพัฒนาอย่างยั่งยืน

  •   นอกจากนี้ กลุ่มไทยออยล์ได้วางแผนงานการพัฒนาชุมชนแบบบูรณาการผ่านโครงการและกิจกรรมด้านสังคมและวัฒนธรรม ด้านการส่งเสริมสุขภาวะและคุณภาพชีวิต ด้านการศึกษา และด้านสิ่งแวดล้อม และได้กำหนดปณิธานงานเพื่อสังคมตามวิสัยทัศน์องค์กร เพื่อตอบสนองและบริหารความคาดหวังของชุมชนได้เป็นระบบ ประกอบด้วย

  •   •  ดำเนินกิจกรรมเพื่อสังคมโดยเน้นโครงการที่เชื่อมโยงกับการดำเนินธุรกิจของกลุ่มไทยออยล์อย่างมีนัยสำคัญ

  •   • มุ่งเน้นกิจกรรมหลัก 4 ด้าน ประกอบด้วย การศึกษา พลังงานและทรัพยากรธรรมชาติการอนุรักษ์สภาพแวดล้อม และคุณภาพชีวิต ของชุมชน

  •   • สร้างเครือข่ายและความร่วมมือกับ กลุ่ม ปตท. สถาบันการศึกษา และหน่วยงานที่มีความเชี่ยวชาญและเป็นที่ยอมรับของสังคม

  •   • สนับสนุนการมีส่วนร่วมของผู้มีส่วนได้ส่วนเสียที่สำคัญ เช่น ชุมชน หน่วยราชการ ลูกค้า คู่ค้า และพนักงาน

  • แนวทางการบริหารจัดการด้านชุมชน

  • กลุ่มไทยออยล์ริเริ่มหลัก 3 ประสาน (Principle of Tripartite) และ 5 ร่วม (ร่วมคิด ร่วมทำ ร่วมแก้ไข ร่วมเรียนรู้ และร่วมพัฒนา) เพื่อเป็นกรอบในการดำเนินงานและบูรณาการความร่วมมือที่ดีระหว่างกลุ่มไทยออยล์ ชุมชน และส่วนราชการท้องถิ่น โดยตัวแทนจาก 3 ภาคส่วน อันประกอบด้วยเครือข่าย 10 ชุมชนรอบโรงกลั่นพื้นที่อำเภอศรีราชา เทศบาลนครแหลมฉบัง และ กลุ่มไทยออยล์ จะมีการประชุมร่วมกันเป็นประจำทุกเดือน เพื่อการมีส่วนร่วมของไตรภาคีในการ พิจารณาแนวทางการพัฒนาชุมชน ตลอดจนร่วมกันแก้ไขปัญหาที่อาจเกิดจากการดำเนินงานของกลุ่มไทยออยล์ หรือข้อร้องเรียนต่างๆ ที่เกิดขึ้นในพื้นที่

  • กระบวนการสร้างการมีส่วนร่วมของชุมชน

  • กลุ่มไทยออยล์ดำเนินงานด้านการบริหารจัดการชุมชนในพื้นที่รอบโรงกลั่น ตามหลัก 3 ประสาน และแนวคิด 5 ร่วม เพื่อให้ชุมชนมีส่วนร่วมในการพัฒนาชุมชนของตนเอง สามารถพึ่งพาตนเองได้จนเกิดเป็นชุมชนเข้มแข็ง และเพื่อลดผลกระทบด้านต่างๆ จากการดำเนินงานของบริษัทฯ พร้อมรับฟังความคิดเห็นของชุมชนนำมาแก้ไขปัญหาร่วมกัน โดยได้ระบุกลุ่มผู้มีส่วนได้เสียในชุมชนตามความเสี่ยงและผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมที่จะเกิดขึ้น สื่อสารและวิเคราะห์ความต้องการของชุมชนผ่านการมีส่วนร่วมตามแนวทางต่างๆ อาทิ การประชุมเฉพาะกลุ่ม การรับฟังความคิดเห็นกลุ่มย่อย การลงเยี่ยมบ้านติดรั้วโครงการก่อสร้าง การตอบแบบสอบถามความผูกพันของชุมชนต่อบริษัทฯ เป็นต้น จากนั้นนำข้อมูลมาวิเคราะห์เพื่อหาแนวทางพัฒนาการดำเนินงานชุมชนต่อไป

  • กลุ่มผู้มีส่วนได้เสีย แนวทางการมีส่วนร่วม
    กลุ่มคณะกรรมการชุมชน
    1. 1. การประชุมสามประสาน เดือนละ 1 ครั้ง
    2. 2. การประชุมร่วมกับประธานชุมชน เดือนละ 1 ครั้ง
    3. 3. การสื่อสารผ่านช่องทางต่างๆ อาทิ เจ้าหน้าที่ชุมชนสัมพันธ์ลงพื้นที่ ไลน์กลุ่ม โทรศัพท์ หนังสือทางการ e-card
    4. 4. การเข้าเยี่ยมชมธุรกิจ (Open House)
    กลุ่มอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน
    1. 1. การประชุมเครือข่าย อสม. ทุกๆ สองเดือน
    2. 2. กิจกรรมการมีส่วนร่วมกับกลุ่มเครือข่าย อสม.
    3. 3. การสื่อสารผ่านช่องทางต่างๆ อาทิ ไลน์กลุ่ม โทรศัพท์ หนังสือทางการ e-card
    หน่วยงานภาครัฐในพื้นที่
    1. 1. การประชุมสามประสาน เดือนละ 1 ครั้ง
    2. 2. การประสานงานเพื่อลงชุมชนกรณีชุมชนเกิดข้อกังวลใจต่อการดำเนินงานของบริษัท
    กลุ่มผู้สูงอายุ
    1. 1. กิจกรรมส่งเสริมสุขภาพในกลุ่มผู้สูงอายุ
    2. 2. การทำกิจกรรมและรับฟังข้อคิดเห็นร่วมกับเครือข่าย อสม. ในพื้นที่ชุมชน
    กลุ่มประมง
    1. 1. กิจกรรมชุมชนสัมพันธ์และการมีส่วนร่วมกับกลุ่มประมง
    2. 2. การสื่อสารผ่านประธานกลุ่มประมงในพื้นที่ และสื่อสารชี้แจงการดำเนินงานพร้อมรับฟังความคิดเห็น
    3. 3. การสื่อสารผ่านประธานคณะกรรมการชุมชน
    NGOs / คณะกรรมการตรวจติดตามผลกระทบสิ่งแวดล้อม
    1. 1. การประชุมคณะกรรมการประสานความเข้าใจ
    2. 2. การประชุมคณะกรรมการตรวจติดตามผลกระทบสิ่งแวดล้อมตามระเบียบ EIAs
    กลุ่มผู้ประกอบการเรือ
    1. 1. การประชุมเฉพาะกิจ กรณีที่จะส่งผลกระทบ  
    2. 2. การสื่อสารผ่านประธานคณะกรรมการชุมชน
    เครือข่ายสมาชิกและกรรมการเยาวชนอาสาฯ
    1. 1. ประชุมเครือข่ายเยาวชนอาสา เดือนละ 1 ครั้ง
    2. 2. กิจกรรมการมีส่วนร่วมกับกลุ่มเครือข่ายเยาวชน
    3. 3. การสื่อสารผ่านช่องทางต่างๆ อาทิ ไลน์กลุ่ม Facebook โทรศัพท์
    กลุ่มผู้อาศัยในพื้นที่ติดรั้วโรงกลั่น
    1. 1. เวทีเสวนาชุมชน เพื่อชี้แจงเกี่ยวกับโครงการต่างๆ ที่บริษัท ดำเนินการอยู่และรับฟังข้อคิดเห็น  
    2. 2. การเยี่ยมบ้านชุมชน ลงชุมชนเพื่อสื่อสารให้ชุมชนได้รับทราบและเข้าใจลักษณะงานก่อสร้างฯ และมีส่วนร่วมในการแก้ไขปัญหาระหว่างการก่อสร้าง
    ประชาชนทั่วไป
    1. 1. การดำเนินกิจกรรมและโครงการชุมชนสัมพันธ์
    2. 2. การสื่อสารและรับฟังความคิดเห็นผ่านคณะกรรมการชุมชน

    การถ่ายทอดประสบการณ์ความรู้ขององค์กร สู่ท้องถิ่น

  • กลุ่มไทยออยล์นำความรู้ ประสบการณ์ และความเชี่ยวชาญ ด้านวิศวกรรมและพลังงานเข้าไปพัฒนาสังคมในด้านการพัฒนา พลังงานทดแทนและการใช้ทรัพยากรธรรมชาติให้เกิดประโยชน์ สูงสุด ภายใต้แนวทางปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง เพื่อร่วมสร้าง “ชุมชนต้นแบบที่สามารถพึ่งตนเองด้านพลังงานได้อย่าง ยั่งยืน” 

โครงการความรับผิดชอบต่อสังคมและชุมชนตามกรอบการทำงานด้าน CSR ปี 2565

 

ประเภทโครงการ กรอบ วัตถุประสงค์โครงการ การดำเนินงานในปี 2565
โรงเรียนส่งเสริมทันตสุขภาพรอบกลุ่มไทยออยล์
คุณภาพชีวิต

 
เพื่อส่งเสริมสุขภาพในช่องปากของนักเรียน
 
ปี 2565 ไม่มีการดำเนินโครงการทันตสุขภาพ เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด 19 โดยมีแผนดำเนินโครงการฯ อีกครั้งในปี 2566
 
โครงการสร้างเด็กแหลมฉบังเป็นแชมป์กระโดดเชือก
คุณภาพชีวิต
เพื่อให้เยาวชนได้ออกกำลังกาย มีสุขภาพร่างกายแข็งแรง เพิ่มความหนาแน่นของมวลกระดูกและความแข็งแรงของกล้ามเนื้อ และลดความเสี่ยงของการเกิดโรคหัวใจในอนาคต 1. โครงการพัฒนาทักษะนักกีฬา สู่แชมป์กระโดดเชือก ประจำปี 2565 เพื่อคัดเลือกนักกีฬาจาก 8 โรงเรียนรอบโรงกลั่น เข้าร่วมการแข่งขันรวมเป็น 1 ทีม ในชื่อทีม Thaioil Jump Rope ผู้เข้าร่วมโครงการครั้งนี้จำนวน 140 คน
2. ค่ายฝึกทักษะนักกีฬากระโดดเชือก ทีม Thaioil Jump Rope เพื่อฝึกซ้อมนักกีฬาที่ผ่านการคัดเลือกและเตรียมความพร้อมก่อนเข้าร่วมการแข่งขันกระโดดเชือกชิงถ้วยพระราชทานระดับประเทศ ครั้งที่ 13 มีผู้เข้าร่วมจำนวน 80 คน
3. กลุ่มไทยออยล์สนับสนุนเยาวชนแหลมฉบังเข้าร่วมการแข่งขันกระโดดเชือกชิงถ้วยพระราชทานระดับประเทศ ครั้งที่ 13 ในวันที่ 19-20 พฤศจิกายน 2565 ณ ศูนย์กีฬาประชานิเวศน์ กทมฯ มีทีมผู้เข้าแข่งขันเป็นนักกีฬากระโดดเชือกประเทศไทยจำนวน 29 ทีม ต่างประเทศจำนวน 7 ทีม ผู้เข้าแข่งขันประมาณ 400 คน โดยทีม Thaioil Jump Rope สามารถคว้าเหรียญรางวัลมาได้ทั้งสิ้น 36 รายการ แบ่งเป็น 14 เหรียญทอง 9 เหรียญเงิน และ 13 เหรียญทองแดง
 
โครงการ 5 เดือนมุ่งมั่น เดินวิ่ง 1 แสนกิโล
คุณภาพชีวิต
เพื่อให้ชุมชนได้ออกกำลังกายด้วยการ เดิน – วิ่ง เสริมสร้างร่างกายให้แข็งแรง และได้รับองค์ความรู้ด้านสุขภาพใหม่ๆ ไปประยุกต์ใช้กับตนเองและครอบครัว เชิญชวนชุมชนรอบกลุ่มไทยออยล์มาออกกำลังกายด้วยการเดิน – วิ่ง ให้ได้ 100,000 กิโลเมตร บันทึกระยะทางผ่าน application “นับก้าว” ในระยะเวลา 5 เดือน ตั้งแต่เดือนมิถุนายน-ตุลาคม 2565 และมีนัดหมายให้ร่วมกิจกรรมด้วยกันที่ศูนย์สุขภาพและการเรียนรู้กลุ่มไทยออยล์เพื่อชุมชน เพื่อติดตามผล จำนวน 16 ครั้ง มีผู้เข้าร่วมกิจกรรมจำนวน 150 คน
 
โครงการส่งเสริมเศรษฐกิจชุมชน
คุณภาพชีวิต
เพื่อส่งเสริมศักยภาพชุมชนโดยการสร้างอาชีพให้กับประชาชนทั่วในพื้นที่ศรีราชาโดยการดำเนินโครงการผ่านศูนย์สุขภาพและการเรียนรู้ฯ ต่อยอดโครงการอาชีพเสริม เพิ่มรายได้ โดยสร้างกลุ่มอาชีพ “ผลิตภัณฑ์ชุมชนแหลมฉบัง” ผลิตสินค้าประเภทผลิตภัณฑ์สุขภาพ ประกอบไปด้วย สบู่สกัดเย็น แชมพูอัญชัน และลิบบาล์ม พร้อมทั้งมีบริการรับจัดชุดของที่ระลึก ภายใต้ชื่อ LOMA Brand
 
โครงการพัฒนาพื้นที่สีเขียวเนื่องในวันเฉลิมพระชนมพรรษา ๗๐ พรรษา
สิ่งแวดล้อม
เพื่อเพิ่มพื้นที่สีเขียวเป็นพื้นที่ป่าถาวรและขยายความร่วมมือระหว่างหน่วยงานต่างๆ เพื่อพัฒนาโครงการด้านการส่งเสริมสิ่งแวดล้อมที่ดีในพื้นที่ชุมชนทั้งทางบกและทางทะเล ร่วมกับผู้นำชุมชนรอบกลุ่มไทยออยล์ ทั้ง 10 ชุมชน และเทศบาลนครแหลมฉบังดำเนินกิจกรรมปลูกต้นไม้พัฒนาพื้นที่สีเขียวในชุมชน จำนวน 99 ต้น บนพื้นที่ 5 ไร่ โดยได้ดำเนินการโครงการพัฒนาพื้นที่ดังกล่าวให้เป็นพื้นที่สีเขียวมาอย่างต่อเนื่องนับตั้งแต่ ปี 2563 
 
โครงการสวน 60 ปี ไทยออยล์ -นครแหลมฉบัง
คุณภาพชีวิตและสิ่งแวดล้อม
เพื่อเพิ่มพื้นที่สีเขียวและสถานที่พักผ่อนและสันทนาการให้แก่ชุมชนในเขตเทศบาลนครแหลมฉบัง  พัฒนาพื้นที่จำนวน 9 ไร่ให้เป็นสวนสาธารณะชุมชนที่มีจุดเด่นด้านการอนุรักษ์พลังงานและสิ่งแวดล้อม บริเวณศาลาประชาคมอ่าวอุดมร่วมกับเทศบาลนครแหลมฉบัง โดยได้ทำพิธีส่งมอบให้กับเทศบาลนครแหลมฉบัง ในวันที่ 7 กรกฎาคม 2565
 
โครงการ Thaioil CE WE GO รณรงค์สร้างจิตสำนึกด้านเศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy)
สิ่งแวดล้อมและการใช้ทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพ
เพื่อปลูกฝังจิตสำนึกในการอนุรักษ์พลังงาน และสิ่งแวดล้อมให้แก่พนักงานและสร้างนิสัยที่ดีในการอยู่ร่วมกันในองค์กร รณรงค์ให้พนักงานประหยัดน้ำ ประหยัดไฟ และแยกขยะก่อนทิ้ง โดยการจัดถังขยะแยกสี นำเศษอาหาร (Food Waste) ไปผลิตเป็นดินปุ๋ย และผลิตเสื้อพนักงานจากขวดพลาสติดจำนวน 1,600 ตัว
 
โครงการติดตั้งระบบไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ให้แก่โรงพยาบาล (Sustainable Energy for Health Care)
สิ่งแวดล้อม พลังงาน และคุณภาพชีวิต
สร้างความมั่นคงด้านพลังงานไฟฟ้าให้กับโรงพยาบาลและส่งเสริมให้การบริการแก่ประชาชนมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น อีกทั้งยังช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก 
 
ส่งมอบโครงการฯ ให้กับโรงพยาบาลแหลมฉบัง เมื่อวันที่ 7 สิงหาคม 2565 โดยมีศักยภาพในการอนุรักษ์พลังงานไฟฟ้าประมาณ 89,000 กิโลวัตต์-ชั่วโมงต่อปี เทียบเท่าการลดก๊าซเรือนกระจกประมาณ 60 ตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่าต่อปี คิดเป็นมูลค่าค่าใช้จ่ายที่ลดลงราว 400,000 บาทต่อปี
โครงการ Nature-based Solutions
สิ่งแวดล้อม และคุณภาพชีวิต
แก้ไขปัญหาสภาพการเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศ ผ่านการฟื้นฟูพื้นที่ป่าเสื่อมโทรมและส่งเสริมการเพิ่มพื้นที่ป่าชายเลนให้เป็นแหล่งสำหรับกักเก็บคาร์บอน และเป็นการสนับสนุนการดักจับคาร์บอนในบรรยากาศ
 
เข้าร่วมโครงการปลูกป่าชายเลน เพื่อประโยชน์จากคาร์บอนเครดิต ร่วมกับกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง (ทช.) โดยได้รับการจัดสรรพื้นที่จำนวน 56.22 ไร่ ในจังหวัดชลบุรี เพื่อพัฒนาโครงการฯ ซึ่งสามารถดูดซับก๊าซคาร์บอนได้ประมาณ 1,520 ตัน ตลอดระยะเวลาโครงการ 10 ปี และได้มีการจัดจ้างแรงงานในพื้นที่เพื่อปลูก และบำรุงรักษา ซึ่งโครงการฯดังกล่าว จะเป็นแหล่งกักเก็บก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ และเป็นแหล่งพักผ่อนหย่อนใจแก่สารธารณะ ทั้งยังเป็นการส่งเสริมเศรษฐกิจในพื้นที่ ผ่านการจ้างงาน
 
โครงการนวัตกรรมสร้างรอยยิ้ม (Smart Farming)
คุณภาพชีวิต
เพื่อพัฒนาพื้นที่ต้นแบบเพื่อสร้างกระบวนการผลิตสินค้าเกษตรวิถีใหม่ เพิ่มรายได้ และส่งเสริมให้เกษตรกรและกลุ่มวิสาหกิจชุมชนมีปริมาณผลผลิตและแหล่งรับซื้อที่แน่นอน เป็นการช่วยแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจให้ชุมชนอย่างยั่งยืน
 
พัฒนาโครงการใน 3 พื้นที่ ได้แก่พื้นที่ศูนย์เรียนรู้ทุนชุมชนตำบลท่าช้าง อำเภอสว่างวีระวงศ์ จังหวัดอุบลราชธานี พื้นที่ตำบลบางพระ อำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี และพื้นที่เรือนจำกลางชลบุรี ตำบลคลองกิ่ว อำเภอบ้านบึง จังหวัดชลบุรี โดยได้พัฒนาระบบการเกษตรสมัยใหม่ และสร้างผลผลิตทางการเกษตรอินทรีย์และสร้างรายได้ให้กับเกษตรกรได้อย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังได้เพิ่มช่องทางการประชาสัมพันธ์ และจัดจำหน่ายสินค้าทางการเกษตรให้แก่โครงการฯ โดยการนำผลผลิตทางการเกษตรมาจำหน่ายให้กับพนักงานที่สำนักงานโรงกลั่น และสำนักงานกรุงเทพฯ
 
โครงการส่งเสริมด้านการศึกษา (PTT Group Model School) และโครงการสานอนาคตการศึกษา (CONNEXT ED)
การศึกษา
เพื่อสนับสนุนด้านการศึกษาพื้นฐานและการพัฒนาผู้นำของโรงเรียนและภาคการศึกษา และเป็นส่วนหนึ่งในการขับเคลื่อนด้านการศึกษาผ่านการแลกเปลี่ยน เรียนรู้และวางแผนพัฒนาโรงเรียนร่วมกับผู้บริหารโรงเรียน
 
- โครงการ Restart Thailand จัดจ้างครูผู้ช่วยสอนให้กับ 14 โรงเรียน จำนวน 4 อัตราต่อโรงเรียน เพื่อทำหน้าที่ผู้ช่วยสอนและพัฒนาระบบการเรียนรู้
- กิจกรรมมอบ Tablet เพื่อการศึกษา แก่โรงเรียนประชารัฐรอบกลุ่มไทยออยล์ เพื่อให้โรงเรียนสามารถนำไปใช้จัดการเรียนการสอน ส่งเสริมกระบวนการเรียนรู้ให้นักเรียนได้เข้าถึงเทคโนโลยี
- โครงการส่งเสริมสะเต็มศึกษา (STEM) เพื่อพัฒนาทักษะครูสะเต็มผ่านการทำโครงงานและงานวิจัย โดย จัดอบรมโรงเรียนที่เข้าร่วมกิจกรรม จำนวน 15 โรงเรียน ครู 38 คน นักเรียน 57 คน รวม 95 คน
 
โครงการ Teach for Thailand
การศึกษา
พัฒนาครูผู้นำแห่งการเปลี่ยนแปลงที่มีศักยภาพปฏิบัติหน้าที่ในฐานะครูผู้ช่วยสอนนักเรียนในระดับชั้นมัธยมต้น
 
สนับสนุนงบประมาณในการพัฒนาครูผู้ช่วยสอน 2 ตำแหน่งให้กับโรงเรียนวัดมโนรม ซึ่งตั้งอยู่ใกล้กับโรงกลั่น ระยะเวลา 1 ปี ต่อเนื่องเป็นปีที่ 4 โดยสอนวิชาวิทยาศาสตร์ และภาษาอังกฤษให้นักเรียนระดับมัธยมศึกษาปีที่ 1 - 3 ให้กับนักเรียน 839 คน ซึ่งมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนในวิชาวิทยาศาสตร์และภาษาอังกฤษเกาะกลุ่มอยู่ในค่าเฉลี่ยของทุกโรงเรียนที่เข้าร่วมโครงการฯ และมีการพัฒนาทักษะการพูดภาษาอังกฤษดีขึ้นอย่างชัดเจน
 
โครงการไทยออยล์สานฝันเยาวชนสู่การเป็นนักกีฬาอาชีพ
คุณภาพชีวิต
ส่งเสริมคุณภาพชีวิตเยาวชนรอบกลุ่มไทยออยล์และบุตรหลานพนักงานผ่านการฝึกทักษะด้านกีฬา
 
- กิจกรรมฝึกอบรมครูผู้ฝึกสอนกีฬาฟุตบอลเพื่อช่วยยกระดับบุคลากรผู้ฝึกสอนฟุตบอลตามโรงเรียนในชุมชนให้มีมาตรฐานพร้อมก้าวไปสู่หัวหน้าฝึกสอนมืออาชีพได้ในอนาคต มีผู้เข้าร่วมฝึกอบรม 30 คน
- กิจกรรมคลินิกฟุตบอล และฟุตซอล สำหรับเยาวชนในพื้นที่แหลมฉบังเพื่อเสริมสร้างทักษะความรู้ ความสามารถ และเทคนิค มีผู้เข้าร่วม 120 คน
- กิจกรรมนำนักกีฬาฟุตซอลเยาวชนเข้าร่วมการแข่งขันฟุตซอลกระชับมิตรสนามมาตรฐานระดับประเทศ ณ สนามบลูเวฟ อารีน่า จ.ชลบุรี พร้อมการฝึกสอนทักษะจากโค้ชและนักกีฬาฟุตซอลอาชีพ มีผู้เข้าร่วม 70 คน
- กิจกรรม “ช่วยชีวิต ลดวิกฤตการจมน้ำ” ประจำปี 2565 โดยกลุ่มไทยออยล์ จับมือสมาคมกีฬาว่ายน้ำแห่งประเทศไทย พัฒนาทักษะด้านกีฬาว่ายน้ำให้แก่เด็กและเยาวชนในพื้นที่เทศบาลนครแหลมฉบัง ต่อเนื่องเป็นปีที่ 3 และมีเยาวชนเข้าร่วม 250 คน